"อนุทิน" ปัด เช็กชื่อรัฐมนตรีเข้าครม.ชี้  เคส “ปราจีนบุรี” ไม่เข้าข่ายผู้มีอิทธิพล​

"อนุทิน" ปัด เช็กชื่อรัฐมนตรีเข้าครม.  ชี้​เคส “ปราจีนบุรี” ไม่เข้าข่ายผู้มีอิทธิพล​ เป็นเหตุทะเลาะวิวาทบันดาลโทสะ​  ยินดี​ "นายกฯ" นั่งประธาน​ปราบเอง​ หวังดึงตำรวจ​ ทหาร​ ร่วม​ 

นายอนุทิน​ ชาญ​วี​ร​กูล​  รอง​นายก​รัฐมนตรี​ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง การเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ (17 ธ.ค.) ต้องมีการเช็กชื่อด้วยหรือไม่ หลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการลาประชุม ว่า ถ้าใครติดภารกิจสำคัญก็ต้องลา แต่จริงๆ แล้วสัปดาห์นั้นไม่มีใครพูดถึงว่าเป็นวันพุธ เนื่องจากวันอังคารที่ 10 ธ.ค.เป็นวันหยุดราชการ ปกติจะข้ามไปสัปดาห์หน้า ซึ่งตนก็คิดว่าเป็นวันพุธและนัดหมอที่โรงพยาบาลรามาธิบดีไว้ กำลังให้หมอลงเลเซอร์อยู่นายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีก็โทรมาตามเข้าประชุม เราก็อยากหล่อบ้าง มีคนบอกว่า เราไม่ค่อยหล่อ

ส่วนที่นายทักษิณพูดอาจจะไม่เข้าใจนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ขอให้สื่อช่วยอธิบายให้ท่านเข้าใจด้วย พอไม่เข้าใจก็กลับไปโถมให้หนักเข้าไปอีก


เมื่อถามย้ำว่าได้มีโอกาสโทรไปชี้แจงนายทักษิณเป็นการส่วนตัวแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่ต้องชี้แจง เพราะข่าวก็เป็นไปหมดแล้ว อย่างที่ผมบอกไว้คือว่า มีไม่กี่คนที่ตนไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงด้วย และให้ความเคารพตลอด ไม่ว่าท่านจะพูดอย่างไรก็ตาม ผมก็มีข้อยกเว้น เพราะผมรักของผม คือใครที่เรารักและเคารพเรามากๆ ดุด่าว่ากล่าวมา เหมือนตนดุคนรถทุกวัน จนตายไปคนนึงแล้ว ก็ยังคงคิดถึงอยู่เลย เพราะไม่มีเงินใครให้ดุ ซึ่งผมก็รักมาก”

ส่วนกรณี นายกรัฐมนตรี​ เตรียมเดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพล ​ว่า​ เหมือนนายกฯ กลับมาขันน็อต แต่จริง ๆ แล้วกระทรวงมหาดไทยปฏิบัติมาตลอดอยู่แล้ว กรณีที่เกิดขึ้นที่ปราจีนบุรีคือ เหตุการณ์​เกิดขึ้นในบ้านพัก​ เป็นการทะเลาะวิวาทและบันดาลโทสะ ใครทำอะไรไปก็ต้องรับผลกรรม แต่ถ้าจะออกไปซ่าข้างนอก ไม่เหลือ ทำไม่ได้​ 

เมื่อถามว่า​ ต้องยอมรับว่าเขาเป็นบ้านใหญ่ที่นั่นตำรวจเลยมีการขยายผล​ ปูพรมตรวจทุกพื้นที่​ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ ก็ดี​  ถือว่า ธรรมชาติจัดสรร ถ้าใครทำไม่ดีก็ต้องถูกขยายผลว่า เกี่ยวพันไปถึงใคร​ ถ้าเป็นเรื่องผู้มีอิทธิพล​ เรื่องปืน​ เรื่องข่มขู่ ก็ต้องเข้าไปจัดการ ใครจะไปช่วยไม่เห็นมีใครช่วยเลย บางทีกฎหมายก็จัดการ​ บางทีธรรมชาติก็เข้าไปจัดการ​ คนที่ได้ประโยชน์คือ ประชาชนและประเทศชาติ​  

​ขณะที่ก่อนหน้านี้เคยมอบหมายให้นายชาดา​ ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย​เป็นผู้ปราบปรามผู้มีอิทธิพลครั้งนี้จะมอบหมายให้กับน.ส.ซาบีดา​ ไทย​เศรษฐ์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดูแลหรือไม่​  นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ รอบนี้เป็นคุณอนุทินแล้ว

ส่วนที่นายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ จะรื้อฟื้นเหมือนในอดีตที่ให้มีการตั้งศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และยาเสพติด​  นายอนุทิน​ กล่าว​ว่า​ ถ้าได้นายกฯ มาช่วยอีกแรงยิ่งดีใหญ่ เพราะจะมีกลไกตำรวจ ทหาร และความมั่นคงต่าง ๆ มาทำงานร่วมกับกลไกของกระทรวงมหาดไทย ก็จะเป็นการบูรณาการที่สมบูรณ์แบบ ดีใจ และยินดีถ้านายกฯ ลงมาช่วยอีกแรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ เพราะคงไม่มีใครใหญ่กว่านายกฯ

เมื่อถามว่า​ ตอนที่กระทรวงมหาดไทยมีการลิสต์รายชื่อผู้มีอิทธิพล​ มีรายชื่อของบ้านใหญ่ปราจีนบุรีอยู่ด้วยหรือไม่​ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ คำว่ามีอิทธิพลมีหลายอย่าง​ การทำให้ชาวบ้านเชื่อถือเคารพศรัทธา​ ก็ถือว่าเป็นอิทธิพล​ ถ้าแบบนี้ไม่เป็นไร​ ทุกคนมีอิทธิพลหมด​ ขึ้นอยู่กับว่าจะไปทำให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมือง​ หรือทำให้ผู้คนเดือดร้อน​ เราก็มุ่งไปปราบอิทธิพลที่ทำให้ผู้คนเดือดร้อน​ ถ้าเขาทะเลาะวิวาทกันเองบันดาลโทสะกัน ตรงนี้ไม่อยู่ในข่าย แต่ต้องไปดูว่าอาวุธปืน มาจากไหน ต้องไปขยายความ เพราะอาวุธปืนที่ใช้ดูแล้วคนธรรมดาก็ไม่ได้พกพาอะไรขนาดนั้น ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่แยกแยะออก ว่าใช้อิทธิพลในการประกอบคุณงามความดี หรือใช้อิทธิพลในการข่มเหงรังแกชาวบ้าน​ นายอำเภอผู้ว่าตำรวจดูออกอยู่แล้วตนเองก็ดูออก

TAGS: #อนุทิน #ทักษิณ #สจโต้ง #ปราจีนบุรี