‘พิชัย’สั่งพาณิชย์จังหวัดเตรียมพร้อมมาตรการดูแลชาวนา

‘พิชัย’สั่งพาณิชย์จังหวัดเตรียมพร้อมมาตรการดูแลชาวนา
‘พิชัย’เดินหน้าพยุงราคาสินค้าเกษตรอย่างเป็นธรรม กำชับพาณิชย์จังหวัด เร่งดำเนินมาตรการรองรับและช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก

นายพิชัย นริพทะพันธุ์  รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานการประชุมร่วมกับพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรสำคัญว่า  ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับข้าวเป็นหลัก โดยสั่งให้จังหวัดที่เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวนาปรัง เช่น อยุธยา พิจิตร พิษณุโลก และสุพรรณบุรี เตรียมให้ข้อมูลและอธิบายรายละเอียดให้กับเกษตรกร หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) จะได้สรุปมาตรการที่เกี่ยวข้องในวันพรุ่งนี้ (26 กุมภาพันธ์ 2568) เพื่อให้เกษตรกรรับทราบแนวทางช่วยเหลืออย่างชัดเจน

ปัจจุบันราคาข้าวในตลาดโลกได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการที่อินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว ส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกปรับตัวลดลง ประกอบกับปริมาณผลผลิตข้าวนาปีที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อราคาข้าวเปลือกในประเทศ ซึ่งคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด เตรียมเสนอมาตรการเร่งด่วนต่อคณะกรรมการ นบข.ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธาน ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ได้แก่

1.โครงการชะลอและเก็บข้าว เพื่อช่วยลดปริมาณข้าวที่ออกสู่ตลาดในช่วงเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้ราคาข้าวเปลือกทรงตัวได้ดีขึ้น   2.โครงการชดเชยดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกอบการที่เก็บสต๊อก โดยรัฐบาลจะช่วยเหลือดอกเบี้ยในอัตรา 6% แก่ผู้ประกอบการที่เก็บสต๊อกข้าวในช่วง 2-6 เดือน  และ3.โครงการเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือก โดยรัฐจะสนับสนุนค่าบริหารจัดการ 500 บาทต่อตัน ใช้งบประมาณรวม 1,893 ล้านบาท เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีช่องทางจำหน่ายผลผลิตในราคาที่เหมาะสม

นอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่นๆ โดยให้พาณิชย์จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่แหล่งเพาะปลูกข้าวนาปรังเตรียมพร้อมดำเนินมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลโดยทันที โดยให้เร่งประสานกับสถาบันเกษตรกรในพื้นที่เพื่อเข้าร่วมโครงการชะลอการจำหน่ายข้าวเปลือก รวมถึงจัดตลาดนัดข้าวเปลือกให้ครอบคลุมและทั่วถึง โดยต้องทำงานร่วมกับเกษตรกรอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความช่วยเหลือเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตามในการประชุมกับพาณิชย์จังหวัด ยังเน้นย้ำให้พาณิชย์จังหวัดกำกับดูแลการรับซื้อข้าวของผู้ประกอบการและโรงสีในพื้นที่ให้เป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมต่อเกษตรกร รวมถึงการจำหน่ายปัจจัยการผลิตที่สำคัญ เช่น ปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืช ต้องเป็นไปตามกฎหมายและไม่ให้เกิดการเอาเปรียบเกษตรกร หากพบว่าพื้นที่ใดประสบปัญหาราคาตกต่ำ ให้รีบประสานกับกรมการค้าภายใน เพื่อหามาตรการกระจายผลผลิตออกนอกพื้นที่โดยเร็ว

นอกจากนี้ยังได้ติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรอื่นๆ เช่น มันสำปะหลัง ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ขอให้จีนซื้อล่วงหน้าไปแล้วกว่า 1 ล้านตัน รวมถึงข้าว 280,000 ตันที่อยู่ระหว่างเจรจา โดยล่าสุดได้หารือกับนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และนายเจียง เหว่ย อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและพาณิชย์ เพื่อขอให้จีนเร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยจีนรับปากจะดำเนินการ

ด้านสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน ขณะนี้มีผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาปรับตัวลดลงได้สั่งการให้ดูแลราคาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม รวมถึงเตรียมมาตรการรับมือกับผลผลิตเกษตรอื่นๆ เช่น ทุเรียน หอมใหญ่ และมะม่วง ซึ่งปีนี้ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศเย็น ทำให้ผลผลิตออกมากกว่าปกติ

ทางรัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการดูแลเกษตรกรทุกภาคส่วน และจะดำเนินมาตรการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยขอให้พี่น้องเกษตรกรมั่นใจว่า รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ราคาสินค้าเกษตรเป็นธรรมและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกรไทย

TAGS: #ราคาสินค้าเกษตร #ข้าว #ปาล์มน้ำมัน #มันสำปะหลัง