พิษเอลนีโญ กรมชลฯ เตือนให้งดทำนาปีต่อเนื่อง เสี่ยงขาดแคลนน้ำ 

พิษเอลนีโญ กรมชลฯ เตือนให้งดทำนาปีต่อเนื่อง เสี่ยงขาดแคลนน้ำ 
กรมชลประทาน เผยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ เร่งเก็บกักน้ำช่วงปลายฤดูฝน  แจ้งขอความร่วมมือเกษตรกรงดทำนาปีต่อเนื่อง ลดเสี่ยงขาดแคลนน้ำจากผลกระทบเอลนีโญ 

กรมชลประทาน เผยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่-ขนาดกลางทั่วประเทศ  มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกัน 41,916 ล้าน ลบ.ม. (ร้อยละ 55) และมีปริมาณน้ำ “ใช้การได้” รวมกันประมาณ 17,975 ล้าน ลบ.ม.

โดยได้กำชับโครงการชลประทานทั่วประเทศให้เร่ง “เก็บกักน้ำช่วงปลายฤดูฝน” ให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่มีแนวโน้มความรุนแรงเพิ่มขึ้น 

สำหรับการคาดการณ์ “ปริมาณน้ำต้นทุน” เพื่อใช้ในช่วงฤดูแล้งปี 66/67 ทั้งประเทศ ณ วันที่ 1 พ.ย. 66 จะมีปริมาณ “น้ำใช้การได้” รวมกันประมาณ 22,825 ล้านลูกบาศก์เมตร  ใช้ในการวางแผนเพาะปลูกข้าวนาปรัง ปี 66/67 ทั้งประเทศ ได้ประมาณ 2.21 ล้านไร่ ซึ่งน้อยกว่าปี 65 จำนวน 8.22 ล้านไร่ เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนต้นฤดูแล้งมีอยู่อย่างจำกัด

ทั้งนี้ ผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญ จะส่งผลให้ในหลายพื้นที่มีปริมาณฝนตกน้อยลงกว่าปกติ โดยเฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำ “อยู่ในเกณฑ์น้อยมาก” ทำให้ไม่สามารถสนับสนุนน้ำเพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งหรือข้าวนาปรังได้ 

สำหรับปริมาณน้ำใช้การจำนวนดังกล่าว จะเพียงพอเฉพาะการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และแผนการเพาะปลูกพืชไร่ พืชผัก และไม้ผล ไม้ยืนต้น รวมกว่า 2.28 ล้านไร่ เท่านั้น

ดังนั้น จึงขอความร่วมมือเกษตรกรที่ได้ทำการเพาะปลูกข้าวนาปีรอบแรกและเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จ “ให้งดเพาะปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง” เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด ลดความเสี่ยงผลผลิตทางการเกษตรเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ

TAGS: #เอลนีโญ #กรมชลประทาน #ขาดแคลนน้ำ #ภัยแล้ง