รทสช. 20 จังหวัด132 เขตพร้อม 25 ก.พ.เปิดเวทีใหญ่โคราชเปิดประตูบุกอีสาน

รทสช. 20 จังหวัด132 เขตพร้อม 25 ก.พ.เปิดเวทีใหญ่โคราชเปิดประตูบุกอีสาน
รวมไทยสร้างชาติ เตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.อีสาน สิ้นเดือนนี้  ระบุ 20 จังหวัด 132 เขตเลือกตั้งพร้อมแล้ว ดีเดย์ 25 ก.พ.เปิดเวทีใหญ่โคราชเปิดประตูบุกอีสาน ชู “ลุงตู่” นายกฯลูกอีสาน

นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) รับผิดชอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เผยถึงความพร้อมของว่าที่ผู้สมัครส.ส.ในภาคอีสานว่า ขณะนี้ภาคอีสานเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองครั้งใหญ่ เดิมหัวหน้าพรรคกังวลว่าจะหาผู้สมัครส.ส.ไม่ได้ ตนเริ่มต้นจากการไปพูดคุยกับแกนนำ นปช.และคนเสื้อแดงที่ จ.อุดรธานีบางคนเมื่อครั้งก่อนตั้งพรรค หลักการคือการจับมือกันยุติความขัดแย้งระหว่างภาคประชาชนจับมือกันสร้างชาติ ต้องถือหลักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการเมืองที่ซื่อสัตย์ปรากฏว่าคนกลุ่มนี้ตื่นตัวมาก หลังจากตั้งพรรคเสร็จก็ได้ชวนหัวหน้าพรรคไปจ.อุดรฯ นัดแกนนำนปช.และคนเสื้อแดงมาพูดคุยกันปรากฏว่าได้รับการตอบรับด้วยดี

ทั้งนี้ หลังจากพูดคุยก็พบว่า มีผู้ต้องการลงสมัครส.ส.เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแถวสองพวกคุมกำลังคนเสื้อแดงหรือนปช.คนกลุ่มนี้เขาลาออกตั้งแต่มีการตัดท่อน้ำเลี้ยงและยุทธการแตกแบงก์พัน เมื่อการเลือกตั้งครั้งล่าสุด คนกลุ่มนี้ถูกนายใหญ่หักหลังแต่ความคิดพวกเขาอยากเป็นนักการเมือง แต่ไปไม่ถึงฝั่งเพราะเข้าไม่ถึง คนกลุ่มนี้เมื่อลงการเมืองระดับท้องถิ่นได้รับเลือกตั้ง เพราะความเป็นคนเสื้อแดงและนปช. แต่เมื่อถูกทอดทิ้งก็อยากหาที่ยืนทางการเมือง พอพรรครวมไทยสร้างชาติไปคุยเรื่องการจับมือยุติความขัดแย้งเขาก็สนใจ หลังจากนั้นก็เกิดการกระเพื่อมของนปช.และเสื้อแดงภาคอีสานทั้งหมด แยกไม่ออกใครเป็นนปช.หรือไม่นปช.ที่วิ่งเข้าพรรคการเมืองต่าง ๆ บางคนไปอยู่พรรคไทยสร้างไทย หรือพรรคพลังประชารัฐ ได้ 5-6 เดือนก็ถอยกลับมาพรรครวมไทยสร้างชาติ

นายวิทยา กล่าวว่า ภาคอีสาน 20 จังหวัด 132 เขตเลือกตั้ง มาถึงวันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติมีว่าที่ผู้สมัครส.ส.เกือบครบทุกจังหวัดแล้ว ที่เป็นปัญหาคือ ว่าที่ผู้สมัครล้นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งคณะทำงานกำลังพิจารณาคัดเลือกร่วมกันแต่ส่วนใหญ่ลงตัวแล้วรอเวลาเปิดตัวเท่านั้น คิดว่าสิ้นเดือนนี้จะทยอยประกาศตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสานได้ หลักเกณฑ์การคัดเลือกเราจะดูจากประวัติทางการเมืองที่ทำมา ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะส.จ.ถ้ามาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติเราต้องลาออก เมื่อกกต.มีความชัดเจนเรื่องเขตเลือกตั้งแล้วพรรคก็จะมีความชัดเจนกว่านี้

รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ตนเดินมาถึงวันนี้ไม่กังวลอะไรเลยเพราะกระแสพรรคดีขึ้นตลอดเวลา ขณะนี้กระแสพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียังนำพรรคอยู่ ต้องปรับจูนให้กระแสพล.อ.ประยุทธ์กับพรรครวมไทยสร้างชาติเดินไปด้วยกันให้ได้ ซึ่งหมายถึงพล.อ.ประยุทธ์ต้องออกในนามพรรคมากขึ้นบางพื้นที่ชื่อพรรคคนจำไม่ได้แต่ชื่อพล.อ.ประยุทธ์คนจำได้ ดังนั้นต้องทำสองอย่างนี้ให้เดินไปด้วยกันให้ได้ สื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ เรื่องนี้ไม่น่าซับซ้อน

“ยุทธ์ศาสตร์ชูนายกฯภาคอีสานเราต้องทำต่อไปปฏิเสธไม่ได้ เพราะพล.อ.ประยุทธ์เป็นลูกอีสานจริงๆ แต่มีภาระหนักกว่านายกลูกอีสานคนอื่นๆ คือลุงตู่ต้องดูแลคนทั้งประเทศไม่ใช่ดูแลเฉพาะภาคอีสานเท่านั้น เราต้องสื่อสารความจริงให้ประชาชนรู้ คนรู้จักพล.อ.ประยุทธ์คือผลงานที่ทำมาช่วงเป็นรัฐบาล แต่สิ่งที่ไปบดบังผลงานพรรคอื่นสนิทคือ โครงการคนละครึ่ง บัตรประชารัฐ หรือชาวบ้านเรียกบัตรลุงตู่ ตรงนี้เป็นเรื่องจริงถ้าลงไปเดินข้างล่างก็จะทราบความจริงตรงนี้ต้องสื่อสารต่อไปเป็นจุดขายของพรรค” นายวิทยากล่าว

สำหรับ การเดินสายลงพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์จะมีมากขึ้น ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติจะมีเวทีปราศรัยที่ จ.นครราชสีมา ถือเป็นการเปิดประตูสู่อีสาน จากนั้นจะทยอยเปิดประตูไปสู่ภาคอื่นๆ อีกต่อเนื่อง ถ้าได้ไปสัมผัสลึกๆ ใครคิดว่าพรรคเพื่อไทยคืออีสานไม่ใช่เลย ขณะนี้คนเสื้อแดงร้อยละ 90 มีอารมณ์เดียวกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำนปช.คือเขาอยู่ตรงข้ามพรรคเพื่อไทย เขาหลุดจากกรอบครอบของเพื่อไทยแล้ว ขณะที่พรรคภูมิใจไทยเขาก็มีพื้นที่แน่นอนของเขาโดยเฉพาะจังหวัดอีสานใต้ มีบ้านใหญ่ดูแลอยู่แม้จะเจาะยากแต่พรรคก็มีความพยายาม เช่น นายกเทศมนตรีบางพื้นที่ในจ.บุรีรัมย์แทนที่จะอยู่กับพรรคภูมิใจไทยก็เดินออกมา นักการเมืองแถวสองในลักษณะนี้ก็เดินออกมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติมาก หรือแม้แต่จ.อุดรธานีบ้านใหญ่คือ นายวิเชียร ขาวขำ นายกอบจ.อุดรฯ แต่ก็มีนักการเมืองแถวสองที่เดินออกมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ลักษณะนี้มีอยู่หลายจังหวัดทั่วประเทศ

TAGS: #เลือกตั้ง2566 #พรรครวมไทยสร้างชาติ #ปราศรัยใหญ่ #วิทยา #แก้วภราดัย