"ชัยชนะ" เย้ย นโยบาย "เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท" เข้าทำนอง "กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง" เผย เตรียมหาทางลงโดยการออก พ.ร.บ. หวังโยนบาป ส.ส.ที่ไม่เห็นด้วยว่าเป็นผู้ขวางไม่ให้ดำเนินนโยบาย
นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทว่า นโยบายดังกล่าวถือเป็นการเทหน้าตักอีกเรื่องของพรรคเพื่อไทยในช่วงของการจัดตั้งรัฐบาล เพราะต้องการจะดันให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อหวังคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อๆไป โดยหวังว่าจะสามารถสร้างภาพจำให้กับประชาชนในเรื่องของประชานิยม รวมทั้งยังเป็นการทุ่มหมดหน้าตักทางด้านตัวบุคคล โดยนายเศรษฐาตั้งใจที่จะมาควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วยตนเอง มีการส่งขุนพลคู่ใจอย่าง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ มาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ และเอาข้าราชการประจำที่เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจอย่าง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ มาเป็นมือไม้ หวังเกลี้ยกล่อมให้ข้าราชการประจำคล้อยตามนโยบายดังกล่าว แต่ปรากฏว่ามาจนถึงวันนี้ ก็ไม่มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงแสดงท่าทีว่าจะสนับสนุนนโยบายนี้ รวมทั้งเท่าที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชน ก็ไม่มั่นใจว่านโยบายนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง เหมือนกับการนำเงินที่ไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่ มาใช้ดำเนินนโยบายโดยวัดดวงแบบไปตายเอาดาบหน้า และก็ได้สะท้อนกลับมาอย่างจริงจังว่า ขอเป็นเงินสดที่ใช้ได้จริง ณ วันนี้ ไม่ใช่เงินสกุลในอากาศที่เขาต้องรอกระบวนการต่างๆ มากมาย ซึ่งเชื่อว่ามีช่องทางในการทุจริตตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
นายชัยชนะ เชื่อว่านโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท เข้าทำนองที่ว่า "กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง" เพราะก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยก็โฆษณาหาเสียงว่า จะดำเนินนโยบายโดยไม่กู้เงินมาอย่างแน่นอน แต่ปรากฏว่า สุดท้ายก็ต้องหาทางลงแบบไม่ให้เสียหน้ามาก โดยเปิดช่องให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ เพื่อที่ต้องการให้ สส.ที่ไม่เห็นด้วยลงมติไม่เห็นชอบ และหวังจะโยนบาปว่า ที่ทำนโยบายไม่ได้ เพราะ สส.ลงมติไม่เห็นชอบ จะได้มาเป็นข้ออ้างเพื่อเรียกร้องความสงสารจากประชาชน ตนจึงอยากให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ควรนำเสียงจากประชาชนมาปรับปรุงนโยบายดังกล่าว แม้ตนเข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยต้องการรักษาแนวทางประชานิยมที่ทำให้ตนเองได้คะแนนนิยมมาตลอดในการเลือกตั้ง และนโยบายนี้ถือเป็นการเทหมดหน้าตักของจริง แต่ตนเห็นว่าน่าจะเป็นเที่ยวสุดท้าย