5 รัฐมนตรีหญิง ผนึกกำลังรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ รัฐบาลยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้
นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่องค์การสหประชาชาติได้รับรองให้วันที่ 25 พ.ย.ของทุกปีเป็น "วันขจัดความรุนแรง ต่อสตรีสากล" สำหรับประเทศไทยได้กำหนดให้เดือน พ.ย. เป็น "เดือนรณรงค์ ยุติความรุนแรงต่อ เด็ก สตรี และคนในครอบครัว" โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เตรียมจัดแคมเปญรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี พ.ศ. 2566 ตลอดทั้งสัปดาห์
คิ๊กออฟด้วยการติดเข็มกลัดริบบิ้นขาวให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีก่อนเริ่มการประชุม ครม. วานนี้ ไปจนถึงการจัดงานในวันที่ 25 พ.ย.66 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ภายใต้แนวคิด “รวมพลังหยุดความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว” เพื่อให้สังคมได้ตระหนักและร่วมป้องกันและขจัดความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ให้หมดสิ้นไป
รองฯ รัดเกล้า ยังเผยอีกว่า กระทรวง พม. ยังจับมือกับทีมโฆษกรัฐบาล เดินหน้ารวบรวมจุดยืนและนโยบายของรัฐมนตรีผู้หญิง 5 คน ที่ออกมาร่วมกันต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อสตรีอีกด้วย โดยคลิปวิดิโอจุดยืนของ 5 รัฐมนตรี จะเผยให้สาธารณะใด้ชมกันภายในวันที่ 25 พ.ย.66
จุดยืนของ 5 รัฐมนตรีโดยคร่าว ประกอบด้วย นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมพูดถึงแนวทางการป้องกันการใช้ความรุนแรงในการทำงาน สถานประกอบการ โรงงาน ที่บุคลากรในสถานที่ทํางานอาจถูกคุกคาม ถูกข่มเหงหรือ ถูกทําร้าย
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พูดถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสถานศึกษา นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เรื่องปัญหาความปลอดภัยทางเพศในการเดินทางขนส่งสาธารณะ
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รณรงค์ยุติความรุนแรงในพื้นที่สาธารณะที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในหลายรูปแบบ และ ประเด็นสื่อกับความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว โดย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียดรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
“ไม่ใช่เพียงรัฐมนตรีผู้หญิงที่ร่วมกันรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงในทุกรูปแบบ แต่ทั้งรัฐบาลยังให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างมาก โดยเมื่อวานนี้ก่อนการประชุม ครม.ได้จัดกิจกรรม ติดเข็มกลัดริบบิ้นสีขาวให้กับรัฐมนตรีทุกคน โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความความชื่นมื่น เป็นการตอกย้ำว่าเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้” รองฯ รัดเกล้า กล่าว