“นราพัฒน์” พร้อมลงชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ หลัง 9 ธ.ค. ใครจะอยู่ต่อหรือออก เป็นเรื่องปกติทางการเมือง
นายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เผย จะลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในการประชุมใหญ่พรรควันที่ 9 ธ.ค.นี้ หากมีผู้เสนอชื่อต่อที่ประชุมฯ ไม่ได้คิดจะถอนตัวแต่อย่างใด พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีข้อเสียอะไร และมีจุดยืนของพรรคที่ชัดเจน เพียงแต่ว่าการสื่อสารในอดีตที่ผ่านมา สื่อสารออกมาแล้ว ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คนก็เลยอาจมองว่า เราไม่ค่อยเข้าขากัน แต่จริง ๆ แล้วประชาธิปัตย์เป็นประชาธิปไตย มีการแข่งขันกันอย่างเสรี และเรื่องอะไรที่เป็นปัญหา ก็จะนำเข้ามาพูดคุยกันในพรรค แล้วก็โหวตโดยใช้เสียงส่วนใหญ่ออกมาเป็นมติพรรค การที่หลายคนในพรรคอาจมีความคิดเห็นส่วนตัวแล้วสื่อสารหรือแสดงความคิดเห็นไป ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัว แต่ท้ายที่สุดแล้วก็มาตัดสินกันในเวทีประชุมกรรมการบริหารพรรคและส.ส.ของพรรคปชป. ที่จะตัดสินใจร่วมกันออกมาเป็นมติพรรค ดังนั้นการที่จะทำให้มติพรรค มีความศักดิ์สิทธิ์ เข้มแข็งได้ เราก็ต้องมีระเบียบวินัย มติพรรคออกมาอย่างไร ต้องเดินตาม นี้คือวินัยในการที่จะอยู่ร่วมกันในระบอบประชาธิปไตยของพรรค
นายนราพัฒน์ กล่าวว่า หากได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคปชป.คนใหม่ เรื่องแรก ๆ ที่จะทำก็คือ จะเดินสาย ทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคทั้งหมด จะเปิดรับฟังความคิดเห็นสมาชิกพรรคว่าอยากเห็นทิศทางพรรคเดินไปอย่างไร เดินไปในทิศทางไหน เพื่อให้กรรมการบริหารพรรค ได้เข้ามาปรับและพิจารณา ไม่ใช่ top-down ลงไป เมื่อเราได้ข้อมูลดังกล่าว เราก็คงต้องรีบ ระดมคน ระดมสมอง ระดมทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อมาร่วมกันวางแผนในการขับเคลื่อนพรรค รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการสื่อสาร จำเป็นต้องมีมืออาชีพเข้ามาบริหารจัดการในเรื่องระบบการสื่อสารองค์กร
ถามว่า ก่อนหน้านี้ที่เคยบอกหากได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะอยู่แค่สองปี ก็พร้อมจะลาออก นายนราพัฒน์ กล่าวว่า ต้องการเข้าไปแก้ปัญหา ไม่ได้อยากเข้าไปมีอำนาจ แล้วก็ผูกยึดอยู่กับอำนาจ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีเจ้าของ เป็นพรรคของทุกคน ถ้าเราแสดงเจตนารมณ์อย่างนี้ สมาชิกก็น่าจะเห็นเจตนารมณ์ของเรา ว่าเราต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงจริง ๆ เข้าไปปรับปรุงจริง ๆ แล้วก็พร้อมที่จะถอยออกไป แต่หากสมมุติว่าผ่านไปหนึ่งปีครึ่ง เราทำได้ดี ผมถอยออกมา แต่ก็มีคนสนับสนุนให้ลงสมัครหัวหน้าพรรคปชป.ต่อ เราก็เดินต่อได้ แต่หากอนาคต มีใครที่เหมาะสม ก็พร้อมสนับสนุนคน ๆ นั้นขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคในรูปแบบที่เราได้วางระบบเอาไว้ จะได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ๆ เข้ามา อย่างที่มีคนพูดถึงบางชื่อเช่น ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือมาดามเดียร์ (วทันยา บุนนาค) ที่จะเข้ามา แต่ก็อาจยังติดข้อบังคับเรื่องการต้องเป็นสมาชิกพรรคมาก่อนไม่น้อยกว่าหนึ่งปี ซึ่งเรื่องแบบนี้เราสามารถพูดคุยและปรับเปลี่ยนได้เพื่อเปิดโอกาสให้คนเข้ามาหาเรามากขึ้น ได้เข้ามามีบทบาทในพรรคมากขึ้น การจะเข้าไปครั้งนี้ เป็นการเข้าไปเพื่อจะปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับยุคสมัย แล้วก็พร้อมจะถอยออกมา เพื่อให้คนที่เหมาะสมเข้าไปบริหารต่อ แต่หากเห็นว่าทีมที่ผมทำงาน เป็นทีมที่ดี แข็งแรง จะให้บริหารต่อ อันนี้ก็ไม่ขัดข้อง
ถามถึงว่าหลังการประชุมใหญ่พรรค 9 ธ.ค.คิดว่าจะมีเลือดไหลออกจากพรรคปชป.หรือไม่ นายนราพัฒน์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากผมได้รับเลือกแล้ว จะมีคนออกหรือไม่มีคนออก เราไม่สามารถไปก้าวล่วงเขาได้ แต่หากรักประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมให้โอกาส หากครั้งนี้ยังไม่ถูกใจ หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง ก็อดทนแล้วก็อยู่ต่อ แล้วอีกหนึ่งปีครึ่ง-สองปีข้างหน้า สามารถนำเสนอตัวเองเข้ามา เป็นผู้ขับเคลื่อนหรือผู้บริหารพรรคได้ แต่ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ มันหยุดไม่ได้ที่จะต้องไป ผมว่าก็เป็นเรื่องปกติ พรรคก็จะยังเดินหน้าอยู่ อย่าไปยึดติดกับตัวบุคคลให้ยึดติดกับพรรค
“อย่างสมมุติหากผมไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคปชป. ผมก็จะยังอยู่กับพรรค เพราะถ้าไป คงไปนานแล้ว แต่จริงๆ ก็ยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ แต่บทบาทก็อาจเปลี่ยนแปลงไป เช่น อาจเป็นเหมือนคุณอภิสิทธิ์ ก็คือก็เป็นสมาชิกพรรค แต่ก็อยู่ข้างหลัง ผมว่ามันมีความหลากหลาย ขอให้คิดง่ายๆ ว่าให้พรรคเดินไปได้ ส่วนพวกเรา ตัวบุคคล จะอยู่จะไป จะเป็นอะไร จะมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่ง เป็นเรื่องเล็ก”นายนราพัฒน์ กล่าว