"ชัยธวัช" ย้ำ สภาฯมีอำนาจโดยสมบูรณ์ ขออย่าทำให้ "ศาล" เป็นเจ้าของ "รธน." มองขั้นตอนขอศาลรัฐธรรมนูญ ตีความประชามติ ใช้เวลามากเกินไป
นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงแนวทางที่พรรคเพื่อไทยอาจจะมีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ขัดกับคำวินิจฉัยเดิม เพื่อหาช่องทางถามศาล ในฐานะฝ่ายค้านสนับสนุนแนวทางนี้ หรือมีมุมมองอย่างไรบ้าง ว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกลเราเห็นว่า สภาฯ มีอำนาจโดยสมบูรณ์ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัยว่า ต้องทำ แต่แนะนำให้ทำประชามติก่อน
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ข้อเสนอของพรรคก้าวไกล เราเสนอให้ทำประชามติตั้งแต่แรก ไม่ใช่เพราะเราเห็นว่า ต้องทำตามการตีความ หรือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่เราคิดว่ามีประโยชน์ในทางการเมือง ไม่ต้องไปเสียเวลา ทำจนติดขั้นของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่จะทำให้เสียโอกาส อย่าลืมว่า หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 จะต้องผ่านเสียง 1 ใน 3 ของ สว.ด้วย ซึ่งที่ผ่านมา สว.ก็มีจุดยืนชัดว่า ถ้าจะแก้ไขทั้งฉบับ หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 ให้มี สสร. มาทำใหม่ทั้งฉบับ ควรจะต้องทำประชามติ
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งมิติที่สำคัญ คือเรา สามารถใช้โอกาสในการทำประชามติครั้งแรก เพื่อหาฉันทามติร่วมกันของประชาชนได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยหรือไม่ เพื่อสร้างความชอบธรรมทางการเมืองกับข้อเสนอที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มี สสร. ส่วนประเด็นที่ยังมีความคิดเห็นแตกต่างกันในสังคม ก็สามารถใส่เข้าไปเป็นคำถามพ่วงของประชามติได้ เพื่อหาข้อยุติในความเห็นที่แตกต่างกัน ตามกระบวนการประชาธิปไตย สิ่งนี้ก็มีข้อดีของมัน
เมื่อถามถึงข้อกังวลจากฝ่ายรัฐบาล ต่อคำถามพ่วงที่พรรคก้าวไกลเสนอ จะสามารถหาข้อยุติได้อย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องที่ควรมีคำถามพ่วง มาจากจุดยืนกับข้อเสนอของพรรคก้าวไกล ที่เราอยากเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จริงๆ เราจึงไม่อยากให้ออกแบบคำถามหลักในการถามประชามติ ที่ใส่เงื่อนไขยิบๆ ย่อยๆ จนทำให้ประชาชนที่เห็นด้วยกับการทำธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ไม่เห็นด้วยกับคำถามยิบย่อย มาโหวตไม่เห็นด้วย หรือโหวตไม่ประสงค์ลงคะแนน ดังนั้น คำถามหลักจึงควรเป็นคำถามที่กว้าง และมีจุดร่วมมากที่สุด ส่วนประเด็นที่ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ก็ให้มาถามที่คำถามย่อย แต่จะถามอะไรบ้าง ตนคิดว่ายังมีเวลาที่จะหารือกัน
เมื่อถามว่า การที่พรรคเพื่อไทยเปิดให้ศาลรัฐธรรมนูญเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้ จะดูเหมือนการเตะถ่วง หรือดูไม่จริงใจ กับการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เราอาจมองได้ว่า การไปถามศาลรัฐธรรมนูญก่อน เป็นการเพิ่มความชัดเจนให้กับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ได้ อย่าไปมองมิติเดียว แต่อาจจะทำให้ใช้เวลามากจนเกินไป ซึ่งตนคิดว่า ต้องอย่าไปทำให้ศาลรัฐธรรมมนูญเป็นทุกอย่าง เป็นเจ้าของรัฐธรรมนูญ เพราะเราใช้คำวินิจฉัยของเราเองได้ แต่ประเด็นสำคัญ คือการหาแนวทางที่จะทำให้เราได้รับเสียง สว.เกิน 1 ใน 3 ได้อย่างไร ซึ่งเราสามารถใช้เสียงของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ในการทำประชามติครั้งแรก มาให้ สว.ยอมรับได้