“วราวุธ”มั่นใจอภิปรายงบปี 67 ฝ่ายค้านทำการบ้านดี แต่ชี้ไม่ควรนำเรื่อง "ทักษิณ" ถกในสภา ชี้"อุ๊งอิ๊ง"มีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีได้หากเพื่อไทย จะปรับครม.ก็ไม่ขัด
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)เผย ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงการอภิปรายงบประมาณ 2567 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3-5 ม.ค.นี้ว่า ก่อนอื่นต้องดูที่ฝ่ายค้านว่าจะมีข้อสังเกตเรื่องอะไรบ้าง แต่ในส่วนของงบประมาณกระทรวงเรา โดยเรื่องหลักๆจะเป็นเรื่องของเด็กแรกเกิด คนพิการ ผู้สูงอายุ สิทธิสตรี ตนมั่นใจว่าจะสามารถตอบข้อสงสัย และทำให้แนวทางในการทำงานของงบประมาณปี 2567 ผ่านไปได้ด้วยดี
อย่างไรก็ตามในงบประมาณของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็จะมีโครงการใหม่ๆเช่น โครงการตั้งศูนย์ หรือคล้ายๆกับการจัดการสวัสดิภาพภาคประชาชน ซึ่งเราก็ได้ทำเป็นโปรเจคไว้แล้ว คาดว่าจะมีการสานต่อในงบประมาณปี 2567 รวมถึงโครบการเกี่ยวกับเรื่องศูนย์ปริมาณของผู้สูงอายุ รวมไปถึงงบประมาณในการซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชน
เมื่อถามว่าในการอภิปรายงบประมาณปี 2567 อยากฝากถึงหรือพูดคุยอะไรถึงฝ่ายค้าน นายวราวุธ กล่าวว่า เชื่อว่าฝ่ายค้านก็คงทำการบ้านมาดี เพราะเอกสารเกี่ยวกับงบประมาณก็ได้มอบให้ก่อนปีใหม่ และไม่ได้กังวลอะไร เพราะเชื่อว่าทางฝ่ายค้ายเองก็มีประเด็นข้อซักถามเอง
เมื่อถามอีกว่า ทางฝ่ายค้านมีการเตรียมสส.ที่จะอภิปรายกว่า 50 คน อาจจะเป็นเหมือนการซักฟอกรัฐบาลไปในตัวด้วย มีความกังวลหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า เราเพิ่งทำงานมาได้ 3-4 เดือน ถ้ามีข้อแนะนำหรือมีข้อสังเกตไหน ตนเชื่อว่าทางฝ่ายรัฐบาล และรัฐมนตรี ยินดีจะรับไปแก้ไข
เมื่อถามว่าในการอภิปรายงบประมาณปี 2567 ถ้ามีการดึงเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมาอภิปรายฯด้วย นายวราวุธ กล่าวว่า ยังไม่ได้เกิดเหตุ อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ ซึ่งอาจจะยังไม่มีการพูดถึงก็ได้ เพราะตอนนี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการ ยังไม่ได้มีการทำอะไรผิดปกติ ที่ทั้งทางกระทรวงยุติธรรมได้ดูแลอยู่ ส่วนตนไม่ทราบในรายละเอียด แต่เชื่อว่าเป็นการดำเนินการตามปกติ ซึ่งถ้าหากจะมีการพูดพาดพิงถึงเรื่องนี้ก็จะเป็นการไม่ควรเพราะว่า เป็นการเอ่ยถึงบุคคลภายนอกซึ่งไม่สามารถชี้แจงในสภาได้
ส่วนกระแสข่าวจะมีการปรับครม.ให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มานั่งรัฐมนตรี นายวราวุธ กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิที่พรรคเพื่อไทยสามารถดำเนินการได้ ซึ่งน.ส.แพทองธาร ก็เป็นหัวหน้าพรรค คุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมั่นใจว่ามีครบถ้วน ดังนั้นถ้าหากทางพรรคเพื่อไทยพิจารณาปรับครม.ในสัดส่วนของพรรค ก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ แต่ในส่วนที่จะปรับภาพรวมทั้งหมดเลยนั้นคงจะต้องมานั่งคุยกันก่อนว่าจะมีแนวทางเป็นอย่างไร แต่ตนก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร