"ครูมานิตย์" รับ "ก้าวไกล" อภิปรายได้เป็นหลักวิชาการ จวก “จุรินทร์” แตะ “ทักษิณ” ผิดเวที หน้าชื่น ยอมรับเป็นองครักษ์ ตระกูลชิน
นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์พรรคเพื่อไทย เผยถึงการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า ถือว่าผิดคาด ตอนแรกคิดว่าพรรคก้าวไกลจะอภิปรายออกนอกจอแต่ปรากฎว่าส่วนใหญ่เป็นเชิงวิชาการ ถือว่าเงียบเหงาเพราะเที่ยวที่ผ่านมาเปรียบเสมือนสงครามกลางสภาฯระหว่าง 3 ป. กับพวกตนที่อยู่พรรคเพื่อไทยและมีพรรคก้าวไกลมาร่วมด้วย
เมื่อถามว่าวันที่ 3 ม.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลังกำชับอะไรกับสส.ของพรรคหรือไม่ นายครูมานิตย์ ตอบว่า แทบจะคุยตลอด ท่านนายกฯก็อยู่ที่ชั้นเอ็ม 1 ได้คุยกับสส.ตลอด แต่ท่านไม่ได้กังวลเรื่องในสภาฯ บางช่วงโอกาสก็ให้สส.พรรครัฐบาลหรือฝ่ายค้านไปพบเป็นการส่วนตัวที่ห้องเพื่อนำปัญหาในพื้นที่ไปหารือ
เมื่อถามการอภิปรายเกือบมีการพาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ วันนี้คาดว่าจะมีอีกหรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า คิดว่าในสภาฯเขาแยกแยะออก ยกเว้นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญญีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตนลุกขึ้นประท้วงเพราะมองว่านายจุรินทร์ เป็นนักการเมืองอาวุโส หากเป็นสส.รุ่นใหม่ไปอภิปรายตนก็ไม่ค่อยซีเรียส ตนเห็นนายจุรินทร์ เริ่มต้นมาตั้งแต่สีถุงเท้าแล้ว คนเคยเป็นรองนายกฯและรัฐมนตรีมาไม่กี่กระทรวงมาอภิปรายเรื่องถุงเท้าแล้วพยายามออกนอกกรอบเป็นสไตล์เดิมๆ เพียงอยากเตือนว่าเรื่องเช่นนี้ถ้าอยากอภิปรายมีเวทีอยู่ แต่เวทีนี้ไม่เกี่ยวข้องเลยกับความเจ็บป่วยของนายทักษิณ ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งจริงๆแล้วคนป่วยที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์อยู่ในลักษณะนี้จำนวนมาก แต่ท่านพยายามลากมา
เมื่อถามว่าไม่ใช่ลุกประท้วงเร็วไปใช่หรือไม่ เพราะนายจุรินทร์ก็ยังไม่ได้เอ่ยชื่อออกมา นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ยอมรับว่าเร็วไปนิดหนึ่งตนคิดว่าประท้วงไว้ก่อน แต่เข้าใจว่าจะมีรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม จะออกมาชี้แจงต่อเพราะรับผิดชอบโดยตรง เมื่อถามว่าจะถูกทำให้มองว่าเป็นองครักษ์หรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่าแล้วแต่มุมมอง แน่นอนที่สุดในความเป็นพวกตน โดยเฉพาะตนที่มาจากผู้แทนไทยรักไทย มีนายทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรค และอยู่ในพรรคนี้มาจนถึงยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พวกท่านเป็นคนที่ตนเคารพนับถือ พยายามเรียกร้องหาความเป็นธรรม 17 ปีที่นายทักษิณอยู่ต่างประเทศ มีพรรคการเมืองเรียกร้องความเป็นธรรมให้ท่านหรือไม่ตอนที่ท่านอยู่ต่างประเทศ ก็ด่าซ้ำเติมมาโดยตลอด วันนี้ท่านกลับมาไทยยอมรับในกติกาเพียงแค่มีปัญหาเรื่องสุขภาพท่านไม่สบายท่านป่วย และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำเรื่องถูกต้องในการเข้าโรงพยาบาล แต่ถึงเวลาหนึ่งก็พยายามพายเรือลากเข้ามาในสภาฯตนว่าไม่ยุติธรรมที่นักการเมืองอาวุโสอย่างนายจุรินทร์จะลากเข้ามา ถามว่าตนเป็นองครักษ์หรือไม่ ตอบแบบไม่อายเลยว่าบางครั้งมีความจำเป็น เพราะนายทักษิณ เป็นคนทำให้ตนมายืนตรงนี้
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไรให้เรื่องนายทักษิณ ไม่เป็นที่คลางแคลงใจของประชาชน นายครูมานิตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ตนตอบแทนไม่ได้ แต่ถ้ามีการพากพิงนายทักษิณ ก็ต้องชี้แจงข้อคิดเห็นเพื่อให้สังคมเข้าใจ เพราะการพูดฝ่ายเดียวโดยไม่มีใครชี้แจงก็อาจทำให้สังคมสับสน เรื่องนี้ตนต้องลุกขึ้นชี้แจงอยู่แล้ว อะไรที่ไม่เกี่ยวกับงบประมาณอย่าเอาเข้ามา มีเรื่องเยอะแยะเกี่ยวกับงบประมาณแต่ทำไมต้องลากเรื่องนี้เข้ามาคนเดียวเป็นการเจาะจงซึ่งไม่มีอะไรแล้ว ท่านก็ไม่ได้มาเล่นการเมืองนานแล้ว ตนอยากให้ความเป็นธรรมกับท่าน แต่ใครจะมองอย่างไรก็เรื่องของเขา
“ผมคิดว่านายกฯทักษิณ ถูกกลั่นแกล้ง นายกฯยิ่งลักษณ์ วันนี้เรื่องย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี วันก่อนตัดสินว่านายกฯยิ่งลักษณ์ ย้ายนายถวิล โดยไม่เป็นธรรมมีคำพิพากษาจากศาลปกครองออกมา แต่วันนี้ศาลฎีกานักการเมืองกลับบอกว่าเป็นความชอบธรรมสามารถย้ายข้าราชการเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในการทำงานได้ ถามว่าวันนี้ใครช่วยอะไรคนยิ่งลักษณ์ได้หรือไม่ เขาโดนไปแล้วต้องอยู่ต่างประเทศ วันนั้นมีการไล่ล่าแต่วันนี้บอกว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบของผู้บังคับบัญชา และยุคหลังก็มีการย้ายเยอะแต่ไม่มีปัญหา ใครเรียกร้องเรื่องนี้ให้คุณยิ่งลักษณ์บ้าง“นายครูมานิตย์ กล่าว