“ภคมน” ก้าวไกล อภิปรายงบประมาณ 67 เหน็บเหมือนกับอยู่ในรัฐบาลประยุทธ์ อัด จังหวัดใหญ่ได้งบเยอะ จังหวัดเล็กได่น้อย แล้วจะแก้เหลื่อมล้ำอย่างไร แนะกระจายอำนาจ
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระแรก วงเงิน 3,480,000 ล้านบาท น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายร่างงบประมาณ ว่า เมื่ออ่านเอกสารงบประมาณปี 67ทำให้รู้เลยว่าไม่ว่าประเทศไทยจะเกิดวิกฤตอะไรขึ้น หน้าตางบประมาณไทยไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ถ้าปิดชื่อนายกรัฐมนตรีที่มาแถลงปีนี้ตนยังคิดว่าเป็นรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่เป็นไรถ้ารัฐบาลไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าตรงไหน คือวิกฤตตนมีคำตอบให้ คือ ผู้บริหารประเทศที่จัดงบแบบนี้คือจุดเริ่มต้นของความวิกฤต โดยมองเห็นว่าประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำในการพัฒนาเชิงพื้นที่ กรุงเทพฯรวยกว่าชนบท หัวเมืองใหญ่ได้รับการพัฒนามากกว่าหัวเมืองรอง แต่จากงบประมาณปี67 ที่จัดมานั้นตนขอตั้งคำถามว่า แล้วแบบนี้จะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้อย่างไร วันนี้วิกฤตที่ตนและประชาชนมองเห็นต้องใช้ศักยภาพและใจของผู้บริหารประเทศในการมองเห็น ไม่ใช่วิกฤตที่แก้ด้วยการกู้เงินมาแจกแบบที่รัฐบาลอยากให้เป็น
การจัดงบประมาณของท่านไม่มีเจตนาในการที่จะกระจายอำนาจ แต่ท่านต้องการกระชับอำนาจต่างหาก งบประมาณแต่ละปีเงินอุดหนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังมีงบประมาณอีกส่วนมาในรูปแบบของงบจังหวัดปีละประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งงบส่วนนี้ให้ผู้ว่าฯจังหวัดในการตัดสินใจใช้ โดยเป็นงบเพื่อนำมาพัฒนาท้องที่ให้ตอบโจทย์ความต้องการของจังหวัด และดำเนินการตามแผนพัฒนาจังหวัด แต่ถ้าไปดูไส้ในแล้วไม่ตอบโจทย์งานอะไรเหล่านี้เลย งบจังหวัดและกลุ่มจังหวัดเป็นงบซ้ำซ้อน ส่วนเกินและไม่จำเป็น ซึ่งงบนี้เคยถูกปรับลดลงหลังช่วงโควิดและในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แต่พอมารัฐบาลเศรษฐากลับเพิ่มเต็มเพดาน นั่นสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลเศรษฐากำลังอยากเพิ่มกำลังอำนาจราชการส่วนภูมิภาค
น.ส.ภคมน กล่าวอีกว่า งบจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ได้กำหนดนโยบายโดยคน 20 คนเรียกว่าคณะกรรมการบูรณาการนโยบายภาค(ก.บ.ภ.) ที่มีที่มาจากฝ่ายการเมือง 8 คน ข้าราชการ 8 คน ภาคเอกชน 5 คน ตัวแทน อปท. 1 คน และตัวแทนประชาสังคม 4 คน ที่มีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือตัวแทนจากภาคประสังคมพบว่ามี 2 คนที่ไม่ใช่ประชาชนแต่เป็นนักธุรกิจใหญ่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ประธานบริษัทเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย การจัดสรรงบประมาณแบบนี้ 23,000 ล้านบาทที่กำหนดโดยกลไกราชการแบบรวมศูนย์แบบนี้ท่านคิดว่าจะแก้ปัญหากว่าที่เคยเป็นมาได้อย่างไร การแบ่งเค้กงบประมาณ 23,000 ล้านบาทนี้มีการกำหนดสูตรในการจัดสรรงบ สูตรนี้ท่านก็ได้ให้จังหวัดที่ใหญ่ ยิ่งรวย และงบของจังหวัดก็มีการจัดสรรแบบเดียวกันและเพิ่มมาคือการตอบสนองต่อนโยบายของตนเอง
น.ส.ภคมน กล่าวว่า หากเอาหน่วยงานงบประมาณทั้ง 31 หน่วยมาเรียงกันประสิทธิภาพของการเบิกจ่ายงบประมาณของงบจังหวัดและกลุ่มจังหวัดคือหน่วยงานที่มีอัตราเบิกจ่ายที่แย่ที่สุด มีเงินเหลือเบิกจ่ายถึง 25% นั่นหมายความว่ามีการใช้งบในส่วนนี้ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ถ้าเป็นแบบนี้ตัดทิ้งไปหมดได้เลย แล้วเอาไปจัดสรรให้ท้องถิ่นบริหารเพิ่มการบริหารกระจายอำนาจดีกว่า
สุดท้ายตนมีข้อเสนอจัดสรรงบ 23,000 ล้านบาทนี้ให้ไม่เป็นเบี้ยหัวแตกให้เกิดประสิทธิภาพ คือ 1.ต้องรู้ว่าพื้นที่ต้องการอะไร แต่ละท้องถิ่นอยากพัฒนาอะไรให้ท่านลงไปพูดคุย ไปประชาสังคม อย่าคิดอย่าเขียนบนหอคอยงาช้างแบบนี้ 2.ให้เปลี่ยนสูตรการจัดสรรงบประมาณนี้ จัดสรรตามความต้องการของแต่ละจังหวัด โดยจังหวัดที่จะได้งบประมาณมากคือจังหวัดที่มีปัญหามาก และตนเสนอให้ยุบงบประมาณในส่วนนี้ไปเลย เลิกงบที่ซ้ำซ้อน และให้กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นทำไปเลย ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ตนไม่สามารถสนับสนุนร่างกฎหมายงบฯฉบับนี้ได้ ขอให้รัฐบาลทบทวนการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามที่หาเสียงไว้ด้วย