“อนุทิน” ย้ำ ภท.พร้อมหนุน “ดิจิทัลวอลเล็ต” ฐานะพรรคร่วม หลังกฤษฎีกาส่งคำตอบรัฐบาลแล้ว ชี้ หากถูกกฎหมาย ไม่ขัดรธน.ก็ไม่ผิด ยัน ไร้สัญญาณปรับครม. รอนายกฯ กำหนดวันกินข้าวพรรคร่วม 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกฯรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  กล่าวถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาตอบคำถามมายังรัฐบาลแล้วถึงร่างพระราชบัญญัติเงินกู้ 500,000 ล้านบาทเพื่อใช้ในโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทให้ประชาชน ว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่พร้อมทำตามนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ถ้าถูกกฎหมาย ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ สามารถทำได้ ไม่ผิด และพรรคภูมิใจไทย ก็ต้องสนับสนุน ในฐานะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย  หรือ แบงก์ชาติ ขึ้นดอกเบี้ยส่งผลให้ธนาคารต่าง ๆ ได้กำไรกว่า 200,000 ล้านบาทนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่รู้จะมองอย่างไร เพราะการประกอบธุรกิจก็ต้องทำกำไร ธนาคารไม่ได้กำไรจากการคิดดอกเบี้ยจากลูกค้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็มีกำไรจากการลงทุนด้วยรวมถึงค่าเงินและหลายเรื่อง ต้องถือว่าถ้ากิจการทางการเงินมีกำไรการันตีอย่างหนึ่ง ว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยยังมั่นคงอยู่  หากลูกค้าจ่ายหนี้ก็ถือว่าลูกค้ายังมีความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย  ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยังคงน่าจะโอเคอยู่ ทั้งนี้ อย่าไปมองว่าเงินฝากประชาชนน้อย แต่เงินฝากในระบบภาพรวมมีจำนวนมาก ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งเคยมีแนวคิดจะไม่คิดดอกเบี้ยเงินฝาก ดังนั้นอย่าใช้ความรู้สึกต้องดูจากตัวเลขจริง ดูตัวเลขอ้างอิงวัดความมั่นคงของเศรษฐกิจประเทศ 

ส่วนการนัดรับประทานอาหารของพรรคร่วมรัฐบาลที่พรรคภูมิใจไทยเป็นเจ้าภาพครั้งนี้จากเดิมวันที่ 25 ม.ค. ต้องขอเลื่อนไปก่อนเนื่องจากนายกฯติดภารกิจ ต้องรอดูเวลาของนายกฯอีกครั้ง ซึ่งจะมีการเชิญหัวหน้าพรรคการเมืองและเลขาธิการพรรค รวมถึงแกนนำพรรคด้วย โดยเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้เชิญ ยืนยัน ว่าตนเองเป็นเพียงเจ้ามือไม่ใช่ เจ้าภาพ และยังไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด และนายกฯก็มีความเข้าใจระบบการทำงานรัฐสภามากขึ้น ส่วนของพรรคภูมิใจไทยก็พร้อมสนับสนุนนโยบายของนายกฯ 

ทั้งนี้นายอนุทิน มองว่า เสียงที่หายไปในการโหวตรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 นั้นเป็นเพราะสส.บางคนไม่สบายและเสียงของประธาน ซึ่งก็ถือว่า ภายใต้การนำรัฐบาลของนายเศรษฐาทวีสิน มีเสียงเสถียรภาพซึ่งก็ต้องสนับสนุน นโยบายของรัฐบาลพร้อมย้ำว่าตนสนิทสนมกับนายกฯ ซึ่งตนไม่อยากจะโชว์ภาพที่นายเศรษฐา กอดคอตนเอง หลังกลับจากลงพื้นที่จ.ร้อยเอ็ดเมื่อวานนี้(7 ม.ค.)