“อนุทิน” ชี้ ต้องฟังความเห็น ป.ป.ช. ปมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่อยากให้มองเจตนารัฐบาล เชื่อ ไม่มีใครคิดนโยบายมาเพื่อทุจริต ระบุ หาก “ศักดิ์สยาม” รอดศาลรธน.จะชงเป็น รมต.อีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนายกฯ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เผย กรณีมีการเผยแพร่ผลการศึกษาโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ของคณะกรรมการเพื่อศึกษาและดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000บาท ผ่านระบบดิจิทัล วอลเล็ต ที่มีน.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นประธาน ว่า ตนยังไม่เห็น เท่าที่ทราบว่ารายงานดังกล่าวยังไม่เป็นทางการ
เมื่อถามว่า แต่หลายคนระบุว่าเนื้อหามันน่าจะเป็นไปตามที่มีการเผยแพร่ออกมา ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลหวั่นไหวหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ความจริงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท มีคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต อยู่แล้ว ถึงอย่างไรถ้ามีความเห็นจาก ป.ป.ช.มา เขาจะต้องนำให้รัฐบาลและคณะกรรมการฯรับทราบ จะต้องผ่านอยู่ช่องทางนั้นมาก่อน
เมื่อถามว่า ความเห็นของ ป.ป.ช.จะมีน้ำหนักทำให้โครงการนี้เดินหน้าไปต่อได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็ต้องรับฟังทุกความเห็น ซึ่งตนมั่นใจว่าทุกนโยบายของรัฐบาลเป็นนโยบายที่อยู่บนพื้นฐานความสุจริต ไม่มีใครที่จะกล้าจะตั้งนโยบายเพื่อตั้งใจที่จะทำทุจริต มันไม่ใช่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่เป็นคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตอยู่ด้วย มองความเห็นของ ป.ป.ช. ว่าเป็นความห่วงใยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องดูรายละเอียด ซึ่งถือว่าดีแล้วที่มีคนห่วงใย ต้องขอบคุณด้วยซ้ำที่มีผู้ให้ความสนใจและให้ความเห็นต่างๆ มา บางทีมันก็มีอะไรที่เรานึกไม่ถึง ยิ่งเราได้ข้อมูลมากเท่าไหร่เราก็สามารถนำมาประกอบการตัดสินใจได้มากยิ่งขึ้น ต้องถือเป็นสิ่งที่ดี
เมื่อถามว่า ในรายงานของ ป.ป.ช.ดูแล้วค่อนข้างแรง จะทำให้โครงการนี้สะดุดได้เลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครได้อ่านเลยว่าเป็นอย่างไร เป็นการคาดเดากันไป แต่ถึงอย่างไรเราไม่ฟังไม่ได้หรอก เราต้องฟังความเห็นของ ป.ป.ช. ต้องดู ต้องอ่าน ซึ่งต้องมาดูว่ารัฐบาลมีเจตนาที่จะทำอย่างนั้นหรือไม่ อย่างเช่น ไปเอื้อใครหรือไม่ ถ้าไปเอื้อใครตนก็ไม่เอาด้วย และไม่มีใครเอาด้วย แต่ถ้าทำเพื่อประชาชน ทำตามนโยบายที่ให้สัญญากับประชาชนไว้ พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องพร้อมที่จะช่วยกันสนับสนุน ถ้าเราไม่สนับสนุนนโยบายอันนี้ แล้วถ้ามีนโยบายของอีกพรรคหนึ่งเขาไม่สนับสนุนบ้าง แล้วประชาชนจะได้อะไร ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ประชาชนก็เสียหาย ฉะนั้น เราต้องพิจารณาอย่างดี แต่ตนมั่นใจว่าการพิจารณาต้องดูในเรื่องของหลักธรรมาภิบาลหรือการไม่ทำผิดระเบียบ รัฐธรรมนูญ ไม่ทำผิดกฎหมาย มีอยู่แค่นี้ ถ้าผิดรัฐธรรมนูญก็ทำไม่ได้ หรือผิดกฎหมายก็ทำไม่ได้ ใครอยากจะทำคงทำไม่ได้ เพราะคนส่วนใหญ่คงไม่ยอมให้ทำ อย่าไปซีเรียสจนเกินไปจนคนไม่กล้าคิดอะไรเลย
นายอนุทิน เผยกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านวินิจฉัย กรณีสมาชิกภาพนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ จากกรณียังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ว่า วันนี้ไม่ต้องลุ้นแล้ว รอฟังอย่างเดียว เห็นว่าจะมีการอ่านคำวินิจฉัยในตอนบ่ายวันเดียวกัน (17 ม.ค.) คาดว่าคงใช้เวลาพอสมควร ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้กำลังใจนายศักดิ์สยาม โดยเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ในการประชุมพรรค ตนได้เป็นตัวแทนลูกพรรคกล่าวให้กำลังใจ ส่วนตนคงไม่ได้นั่งฟังคำวินิจฉัยด้วย เพราะมีขั้นตอนมาก ต้องไปขออนุญาต อีกทั้งวันเดียวกันมีการประชุมสภาด้วย จึงจะนั่งฟังอยู่ข้างนอก เพราะเห็นว่าจะมีการถ่ายทอดสด ขณะที่นายศักดิ์สยามจะไปฟังด้วยตัวเองหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายศักดิ์สยามรอด จะมีการพิจารณาเพื่อเสนอปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้นายศักดิ์สยามเข้ามาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ปรับ ครม.เป็นหน้าที่นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นอำนาจนายกฯ พรรคภูมิใจไทยพิสูจน์ให้เห็นตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้วว่าการปรับ ครม.ไม่ใช่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ถ้านายกฯจะปรับค่อยมาพิจารณา ถ้าไม่ปรับก็ไปตามนั้น
“ไปขอแล้วไง ท่านจะปรับให้มั้ยล่ะ ท่านครับคุณศักดิ์สยามเป็นรัฐมนตรีได้แล้ว ท่านช่วยปรับให้หน่อย มันไม่ใช่ มันมีอะไรสำคัญกว่านั้นตั้งเยอะแยะ”นายอนุทิน กล่าว