"ศักดิ์สยาม"ไม่รอด ศาลรธน. มีมติเสียงข้างมาก  7 ต่อ 1 หลุดเก้าอี้ "รมว.คมนาคม" ปมซุกหุ้น อดนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีไปอีก 2 ปี งานเข้าโยงยุบพรรคภูมิใจไทย 

ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ ลงมติและอ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ว่า สมาชิกภาพ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ 

จากกรณียังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ทำให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้น หรือกิจการของห้างหุ้นส่วนเป็นการกระทำต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี มาตรา 4(1) ในเวลา 14.00น. 

โดยเมื่อเวลา 13.00 น. นายศักดิ์สยาม ได้เดินทางยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อรับฟังคำวินิจฉัย 

ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติเสียงข้างมาก ให้ความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม  สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) นับจากวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ คือ วันที่ 3 มี.ค 66 จากกรณีถือหุ้น ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ห้ามเป็นรัฐมนตรี 2 ปี 

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ นายศักดิ์สยาม จะต้องโดนป.ป.ช.ตรวจสอบทรัพย์สินอีก  เนื่องจากในข้อเท็จจริงเรื่องของการถือหุ้นในคดีดังกล่าวนั้น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช.ให้ตรวจสอบการถือครองหุ้น หจก.บุรีเจริญฯ และตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเชิงลึกของ "ศักดิ์สยาม" แล้ว ถ้าผิดนายศักดิ์สยาม จะต้องถูกดำเนินคดีอา๙า และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองอีก

นอกจากนี้ในคดีดังกล่าว  นายชูวิทย์ ยังได้ยื่นให้กกต.ยุบพรรคภูมิใจไทย ปมบริจาคตาม ม.72 ที่กำหนดว่า ห้ามพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีนอมินีรับงานคมนาคม และนำเงินมาบริจาคให้พรรคภูมิใจไทย โดยที่ นายศักดิ์สยาม เป็นเลขาธิการพรรค