"ศักดิ์สยาม"ลาออกเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และ สส.แล้ว หลังศาลรธน.ตัดสินซุกหุ้น "ชนม์ทิดา อัศวเหม" หรือ “น้องเพลง” ลูกสาว "ชนท์สวัสดิ์ อัศวเหม "ขยับเป็นส.ส.แทน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย มีผลตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ซึ่งพรรคภูมิใจไทย จะได้แจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ต่อไป
นอกจากนี้ ได้รับแจ้งจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ว่าได้ทำหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ด้วย
ทั้งนี้การลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ แม้ว่าคำพิพากษาของศาลจะไม่มีผลต่อตำแหน่งเลขาธิการพรรค และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ท่านยินดีที่จะลาออกด้วย
สำหรับความผิดนายศักดิ์สยาม นั้น จะส่งผลไปจนถึงขั้นยุบพรรค หรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องการจัดการทรัพย์สินส่วนบุคคล แต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบการแจกแจงแจ้งทรัพย์สินให้กับทางรัฐให้รับทราบ นี่จึงเป็นเจตนารมณ์ในการแจ้งทรัพย์สินไป หากแจ้งไม่ถูกมีคนมาตรวจสอบก็ต้องแก้ไขให้ได้ หากแก้ไขไม่ได้ก็นำไปสู่การดำเนินคดี การร้องเรียนต่างๆ พร้อมย้ำว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่พรรคก็ยังเป็นพรรคดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่อไป
สำหรับสส.บัญชีรายชื่อรายถัดไปที่จะขึ้นมาแทนนายศักดิ์สยาม เป็นผู้สมัคร ลำดับที่ 5 ได้แก่ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม หรือ “น้องเพลง” ลูกสาว นายชนท์สวัสดิ์ อัศวเหม
ด้าน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ได้โทรศัพท์ คุยกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินสิ้น ซึ่งนายศักดิ์สยาม ก็คุยสนุกสนานเฮฮา และเคารพในการตัดสินของศาล แม้ท่านยืนยันว่าไม่ได้ผิดอะไร แต่ในเมื่อศาลตัดสินแล้วก็ต้องยอมรับ มีกำลังใจดีมากกว่าตนเอง
"กลายเป็นมาปลอบผม และคนในพรรค เมื่อผมทราบข่าวก็ใจสั่นไม่หาย พร้อมกับบอกว่า จะได้จบอยากให้ตัดสินเสียทีจะได้จบ ชีวิตจะได้เริ่มต้นใหม่ จะทำอะไรก็จะได้ว่าไป มันเป็นเกมกติกาของการเมืองก็ต้องว่ากันว่ากันไป รับได้หรือไม่ได้ก็ต้องรับ แต่ที่สำคัญนายศักดิ์สยามชิดชอบไม่ได้ทุจริต ต้องทำความเข้าใจด้วย เป็นเรื่องของบริษัทไม่มีอะไรเสียหาย ผมต้องเรียนให้ทราบ”นายชาดาก ล่าว
อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่าในอนาคตจะเห็น นายศักดิ์สยาม ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้อีกหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า กลับมาแน่นอน แต่ต้องอยู่ที่ตัวท่าน ไปตอบแทนไม่ได้ แต่ในนามของสมาชิกพรรคทุกคนยังยึดมั่นในตัว นายศักดิ์สยาม ส่วนจะส่งผลอย่างไรต่อพรรคหรือไม่นั้น นายชาดา ระบุว่า ไม่มี เพราะไม่ใช่เรื่องทุจริต ส่งผลต่อพรรคไม่ได้ ไม่ได้ไปกินไปโกงอะไร ซึ่งจะไม่มีผลต่อ นายศักดิ์สยาม ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และไม่มีผลต่อพรรคภูมิใจไทยแน่นอน
เมื่อถามว่าจะมีผลต่อการเซ็นรับรอง ผู้สมัคร ส.ส. ลงเลือกตั้งหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นพิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรี คนละเรื่องกัน กฎหมายคนละฉบับ ซึ่งนายศักดิ์สยาม ยังสามารถเป็นเลขาธิการของพรรคได้ พ้น 2 ปีไป ก็สามารถกลับมาเป็นรัฐมนตรีได้ เพราะศาลเริ่มตัดสินตั้งแต่3 มี.ค. 2565 เหลืออีกปีกว่าก็กลับมาเป็นรัฐมนตรีได้ ไม่ได้มีความผิดว่าห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง