"ภราดร"เผย กมธ.งบปี 67 คืบหน้า 7.16% แนะกลาโหมปรับขนาดกองทัพให้ทันสมัย-เปิดเกณฑ์ทหารสมัครใจ โยนจัดซื้อ "เรือดำน้ำ" ให้อนุฯพิจารณา
นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมกมธ.ฯ ว่า ความคืบหน้าในการพิจารณามีหน่วยงานต่างๆ ที่ผ่านการพิจารณารวมงบกลาง 11 รายการ 42 หน่วยงาน 3 กองทุน คิดเป็น 7.16% ซึ่งมีการพิจารณาในส่วนของมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น
โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า กองทัพควรปรับลดขนาดให้เล็กลง และมีความทันสมัยในหลายด้านมากขึ้น เนื่องจากภารกิจด้านความมั่นคงในอนาคตจะมีการเปลี่ยนรูปแบบที่แตกต่างไปจากอดีต ซึ่งขนาดของกองทัพที่เล็กลงจะทำให้มีงบประมาณเหลือมากพอสำหรับการปฎิบัติภารกิจของกองทัพอย่างแท้จริง รวมถึงมีการเสนอให้ปรับลดบางตำแหน่งที่ไม่มีความจำเป็นเช่นที่ปรึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อให้สามารถลดการใช้งบประมาณสำหรับนายทหารสูง และควรปรับโครงสร้างการทำงานเพื่อให้ทันกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่
นายภราดร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังควรเปิดให้มีการเกณฑ์ทหารด้วยความสมัครใจ รวมถึงเปิดโอกาสให้เลือกเหล่าทัพที่ตนเองมีความประสงค์ และดูแลสวัสดิการของทหารเกณฑ์ให้ได้รับสิทธิประโยชน์และได้รับการคุ้มครองตามหลักมนุษยชนด้วย อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตถึงการจัดจัดซื้อยุทโธปกรณ์ที่ควรพิจารณาและให้ความสำคัญต่อการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ภายใต้นโยบายการจัดซื้อแบบชดเชย หรือ Offset Policy เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ในการพัฒนาและผลิตอาวุธด้วยตนเองได้ต่อไปเพราะจะสามารถประหยัดงบประมาณของประเทศได้ในระยะยาว และแนะให้นำความผิดพลาดในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในอดีตมาเป็นบทเรียน เพื่อนำมากำหนดแนวทางการจัดซื้ออาวุธที่จำเป็นของกองทัพที่ความโปร่งใส และเพิ่มสัดส่วนการจัดซื้ออาวุธที่พัฒนาและผลิตภายในประเทศในระยะเวลา 10 ปี เพื่อเป็นการสร้างอุตสาหกรรมทางการทหารให้มีความเข้มแข็ง โดยหยิบยกกองทัพของเกาหลีใต้มาเป็นตัวอย่างชี้เห็นที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการเป็นผู้ผลิต
"ส่วนงบประมาณในการจัดซื้อเรือดำน้ำกรรมาธิการให้ไปคุยในรายละเอียดอีกครั้งในชั้นอนุกรรมการต่อไป และกรรมาธิการมีการพูดคุยกันเรื่องของการประกอบธุรกิจกองทัพซึ่งต่างก็ให้ความสำคัญพร้อมกับให้ข้อสังเกตว่าควรมีการชี้แจงให้มากขึ้น กรณีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย และชี้แจงต่อสังคม"นายภราดร กล่าว
