"เศรษฐา" พร้อมรับฟังเสียงคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ บอกในแง่สื่อสาร ยังทำได้อีก ยันยังไม่ปรับ ครม. ไม่ฝากเรื่องการเมือง มุ่งทำงานแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เผยถึงวัตถุประสงค์ เลือกจังหวัดระนองเป็นพื้นที่การประชุมคณะรัฐมนตรี นอกสถานที่อย่างเป็นทางการครั้งที่ 2 ว่า ครม. สัญจรนัดแรกไปภาคอีสานมา ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ครั้งนี้เป็นภาคใต้ ครั้งต่อไปเป็นภาคเหนือ สลับสับเปลี่ยนกันไป จะต้องไปดูแลให้ทั่วถึง รับฟังปัญหา พร้อมชี้แจง โอกาสที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งคนที่เห็นด้วยแล้วไม่เห็นด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีโอกาสพูดคุยกับประชาชนเกี่ยวกับโครงการ แลนด์บริดจ์หรือไม่ นายเศรษฐากล่าว สั้นๆว่า น่าจะ
เมื่อถามว่ามีรายงานข่าวอาจจะมี ประชาชนมาแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะการคัดค้าน โครงการแลนบริดจ์ เตรียมจะชี้แจงอย่างไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องมีการชี้แจง และมีการชี้แจงตลอด เวลาเราลงพื้นที่ ก็มีคนมาร้องเรียน ขอใช้คำว่า ร้องเรียนทุกเรื่องอยู่แล้ว รัฐบาลมีหน้าที่ต้องรับฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ราคาพืชผล หรือเรื่องอื่นๆ ก็ต้องรับฟังอยู่แล้ว
เมื่อถามว่ายืนยันว่าโครงการแลนด์บริดจ์จะทำให้เกิดประโยชน์ มากกว่าใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่าใช่ ก็ต้องไปพูดคุย คิดว่า ยังทำได้อีกในแง่ของการสื่อสาร และรับฟังความคิดเห็น
เมื่อถามว่า มีการมองกันว่ารัฐบาล พยายามสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างชาติ แต่กับคนในพื้นที่ การสร้างความเชื่อมั่นค่อนข้างน้อย นายเศรษฐากล่าวว่า ก็รับฟัง แล้วก็เห็นอยู่ว่า ตนเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ เวลา 10:30 น. เช้าวันศุกร์(19 ม.ค.) จากนั้น 20:00 น. ก็เดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ ดังนั้นการลงพื้นที่ และการให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ ถือว่าเป็นการให้ความสำคัญสูงสุด เดี๋ยวจะเดินทางไปที่จังหวัดระนอง วันพรุ่งนี้(22 ม.ค.) อีกทั้งยังมีตารางเดินทางไปอีกหลายจังหวัด ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ ให้ความสำคัญอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่าในขณะที่รัฐบาลพยายามทำงานไปในทางการเมืองยังมีกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีจะให้คำยืนยันหรือให้ความมั่นใจอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า ตนยืนยันมาตลอดเวลาว่าเรายังทำงานร่วมกันดีอยู่ กับพรรคร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีทุกคนก็ทำงานหนักมาก ตรงนี้ขอให้ฟังจากตนคนเดียวก็แล้วกัน ถึงเวลาเมื่อไรจะบอกเองก็แล้วกัน
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีได้วางไว้หรือไม่ว่า 6 เดือนจะมีการประเมินผลการทำงานของ ครม. หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่า ทุกคนมีการประเมินผลตลอดเวลา เรามีการติชม เสนอแนะมาตลอด ไม่จำเป็นต้อง 6 เดือน 3เดือน หรือ1 ปี
เมื่อถามว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหน ต้องการปรับรัฐมนตรีในส่วนของพรรคตัวเอง สามารถเสนอได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่ารับฟังอยู่ตลอด แต่ตอนนี้เท่าที่ได้ยินมา ทุกท่านมัวแต่ง่วนกับการทำงาน ยังไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ซึ่งความเดือดร้อนของประชาชนทุกคนก็รู้อยู่ว่ามีเยอะอยู่แล้ว ขณะเดียวกันรัฐมนตรีหลายท่านก็ลงพื้นที่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ก็มาด้วยหลายคน แม้แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว. มหาดไทยก็มา และรัฐมนตรีบางท่านได้ลงไปในพื้นที่จังหวัดระนอง เพื่อเตรียมงานในพื้นที่แล้ว เพราะเวลาลงพื้นที่ประชุม ครม. ต่างจังหวัด อยากรับฟังเรื่องที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อน แต่แน่นอนเชื่อว่าคงต้องมีเรื่องร้องเรียนขอความช่วยเหลือ บ่นเยอะ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ก็ต้องรับฟังความเห็นของประชาชน อะไรที่ทำได้ก็ต้องพยายามทำออกไปให้ได้
เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นนักการเมืองอยากจะฝากอะไรเกี่ยวกับเรืองการเมืองหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่มี นอกจากต้องรับฟังความเห็นประชาชน ซึ่งเรื่องความเห็นเรื่องเสนอแนะ และความเดือดร้อนเป็นเรื่องที่รัฐมนตรีทุกท่านให้ความสนใจ และต้องใส่ใจด้วย
ทั้งนี้ก่อนการให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรีได้ทักทายสื่อ กู้ดมอร์นิ่ง ด้วยน้ำเสียงที่แหบๆ โดยนายกฯ กล่าวว่า เสียงไม่ค่อยดีตั้งแต่เดินทางกลับจากดาวอส เพราะเป็นหวัด แต่เมื่อคืนได้นอนพักผ่อน อาการไม่ได้แย่ลง