สว.เสรี นำ 98 รายชื่อ สว. ยื่นขอเปิดอภิปราย ม.153 เน้นปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน กระบวนการยุติธรรม และการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง รวมทั้งนโยบายการแจกเงินดิจิทัล คาดใช้เวลาอภิปราย 2 วัน
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภา นำ 98 รายชื่อ สว. ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 153 ต่อ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา
นายเสรี กล่าวว่า สว. เราเห็นความสำคัญ และประโยชน์ของการบริหารแผ่นดินของรัฐบาล แม้บางส่วนจะบอกว่า สว. จับผิดการทำงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว ระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลต้องเริ่มดำเนินการทำสิ่งที่หาเสียง และได้แถลงนโยบายไว้
“เรื่องที่ยื่นอยากให้ประชาชนได้เห็นว่าระยะเวลาที่ สว. ทำหน้าที่ แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมถึงยื่นรัฐบาลนี้ ซึ่งตนมองว่าไม่ต่างกัน พรรคการเมืองที่จัดตั้งรัฐบาลส่วนใหญ่เป็นพรรคเดียวกัน และการยื่นเป็นภารกิจสำคัญที่ สว. ทำให้ไม่เกิดความเสียหายมีแต่ให้บ้านเมืองดีขึ้น ช่วงระยะเวลา 3-4 เดือนที่เหลืออยู่ สว. จะทำหน้าที่ที่เป็นประโยชน์กับประชาชน นี่คือวัตถุประสงค์สำคัญของการยื่นญัตติในวันนี้”
เมื่อถามว่า มีความคาดหวังอย่างไรบ้างที่รัฐบาลจะนำประเด็นที่ สว. ตั้งไว้ไปขับเคลื่อน นายเสรี ระบุว่า การอภิปรายในสภาอาจจะมีผลในเชิงบวกที่รัฐบาลสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทำไม สว. ไม่เคยอภิปรายในยุครัฐบาลประยุทธ์ แต่อภิปรายในช่วงก่อนหมดวาระ นายเสรี เผยว่า ในช่วง 4 ปี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ 3 ปีแรกแก้ปัญหาโควิด-19 เหลืออีก 1 ปี ไม่ได้มีปัญหาอะไรถึงกับต้องมายื่น ยืนยันว่าการยื่นญัตติอยู่กับช่วงเวลา แต่ปัจจุบันปัญหามีเยอะไม่ใช่รัฐบาลไม่ทำงาน แต่ประเด็นที่เรายื่นเป็นประเด็นที่ควรพูดในสภาเพื่อให้รัฐบาลแก้ปัญหา รัฐบาลที่แล้วและรัฐบาลรัฐบาลนี้ส่วนใหญ่พรรคการเมืองก็เป็นพรรคเดิมๆ ไม่ใช่คนละซีก คนละฝ่าย
สำหรับปัญหาที่ทำให้ สว. เข้ายื่นญัตติ มีปัญหาด้านเศรษฐกิจปากท้อง รัฐบาลน่าจะแก้ปัญหาได้เร็วกว่านี้ แต่ก็ไปวนเวียนกับการแจกเงินดิจิตอลที่ไม่สำเร็จ และดูปัญหาเยอะ รัฐบาลพูดมาตลอดว่าเศรษฐกิจไม่ดี กระบวนการยุติธรรมมีปัญหาเยอะ หากรัฐบาลไม่รักษามาตรฐานความเป็นธรรม ยุติธรรม เลือกปฏิบัติ หาช่องทางที่เอื้อผลประโยชน์กับบางคนบางกลุ่ม จะเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมือง
เมื่อถามว่า กระบวนการยุติธรรมด้านกฎหมาย อาจจะเกี่ยวข้องกรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ จึงจะขอเปิดอภิปรายทั่วไปก่อนที่จะมีการปรับระเบียบ กรมราชทัณฑ์ นายเสรี ย้ำว่า ไม่ได้เน้นที่ตัวบุคคล แต่เน้นที่กระบวนการและโครงสร้างข้อกฎหมายให้เป็นธรรม ต้องให้ประชาชนเชื่อมั่นในกฎหมาย หรือกระบวนการยุติธรรม ทุกคนจะต้องเท่าเทียมกัน
ส่วนการอภิปรายคราวนี้ สว. จะใช้เวลาในการอภิปรายกี่วัน และกี่คน นายเสรี เผยว่า จะใช้เวลา 2 วัน ส่วนผู้อภิปรายได้แสดงความจำนง 98 คน
เมื่อถามว่า นโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะมีข้อแนะนำรัฐบาลว่าจะเดินต่อหรือทบทวน เพราะมีหลายฝ่ายเห็นต่าง นายเสรี เผยว่า รัฐบาลต้องการจะแจกเงินดิจิทัลเพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ตนก็มีคำถามว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ เงินที่จะแจกคนละ 10,000 บาท เอาเงินมาจากไหนนโยบายหาเสียงชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นสัญญาว่าจะให้หรือไม่ เพราะ ป.ป.ช. ให้เหตุผลว่าอันตรายกับประเทศและบ้านเมือง รัฐบาลต้องคิดให้ดี เป็นหนี้ 500,000 ล้าน การจะช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมีหลายวิธี การนำเงิน 10,000 บาท ไปแจกทุกคนก็จะใช้หมด แต่หนี้ที่เกิดขึ้นมหาศาลไม่รู้จะหมดเมื่อไหร่ เราจึงต้องพูดกันในสภา
ด้านประธานวุฒิสภา กล่าวภายหลังรับยื่นญัตติขอเปิดอภิปราย ว่า การยื่นญัตติครั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จากนี้ตนจะส่งหนังสือตามขั้นตอนของธุรการ เพื่อให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ตรวจสอบว่าคำร้องเข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 153 หรือไม่ ก่อนประสานงานไปยังคณะรัฐมนตรี และนัดวันที่เหมาะสม เพื่อมาตอบชี้แจงคำถาม ซึ่งไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ทราบว่าผู้ร้องต้องการให้เกิดขึ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ แต่ทั้งนี้ต้องรอความพร้อมของคณะรัฐมนตรีด้วย
ส่วนการยื่นอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 ในครั้งนี้ จะถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงส่งท้ายของ สว. ก่อนหมดวาระหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า คงไม่สามารถพูดเช่นนั้นได้ แต่เป็นการกระทำตามหน้าที่ เมื่อเข้าหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดก็ไม่มีปัญหาอะไร จะโบว์แดงหรือโบว์ขาว ก็เป็นเรื่องที่ทุกท่านจะตระหนักเอง ตนคงพูดไม่ได้ แต่สิ่งที่ที่ตนพูดได้คือเข้าใจในวัตถุประสงค์ของสมาชิกที่ขอยื่นอภิปรายทั่วไป เพื่อต้องการให้ชี้แจงเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ
