เพื่อไทย ชงร่างแก้รธน.ม.256 หวังลดขั้นตอน-ประหยัดงบทำประชามติ

เพื่อไทย ชงร่างแก้รธน.ม.256 หวังลดขั้นตอน-ประหยัดงบทำประชามติ
"ชูศักดิ์" ยกทีมส.ส.เพื่อไทย 122 คน ยื่นร่างแก้ไขรธน. มาตรา 256  ต่อ "ประธานรัฐสภา" เพื่อให้ลดขั้นตอนการทำประชามติ หวังประหยัดงบ หวังเปิดช่องส่งเรื่องไป "ศาลรธน."ให้ชี้ขาด

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมสส.พรรคเพื่อไทย แถลงชี้แจงกรณีส.ส.เพื่อไทย เข้าชื่อ จำนวน 122 คน เพื่อยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติม รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 256 ว่าด้วยเงื่อนไขของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ เพิ่มหมวดใหม่ ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จำนวน 200 คน ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนแต่ละจังหวัด ซึ่งการยื่นร่างแก้ไขดังกล่าว ได้ดำเนินการ ยื่นต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เมื่อ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่า เพื่อต้องการหาข้อยุติว่าควรจะทำประชามติกี่ครั้ง เนื่องจากคณะกรรมการที่รัฐบาลแต่งตั้งขึ้นตามนโยบายในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้มีการประชุมกันและมีข้อเสนอ ว่า ควรทำประชามติ 3 ครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลาและงบประมาณพอสมควร ครั้งละ 3,000 กว่าล้านบาท ในขณะที่คณะทำงานของพรรคเพื่อไทยศึกษาเรื่องนี้มานานและเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่4/2564 ที่พวกตนมองว่า การที่ต้องถามประชามติของประชาชนก่อนว่าเห็นชอบให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่นั้นสามารถทำได้โดยเสนอญาติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ไปก่อนและเมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าวแล้วจึงถามประชามติประชาชนไปพร้อมกับการถามประชามติเรื่องเห็นควรให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ก็สรุปได้ว่าจะต้องทำประชามติถามประชาชนเพียงแค่ 2 ครั้ง จะทำให้ ย่อระยะเวลาและงบประมาณ โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองโดยสิ้นความจำเป็น อย่างไรก็ตาม คำตอบอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญว่าควรจะถามกี่ครั้ง ซึ่งอยู่ดีๆจะถามเลย ศาลก็จะไม่อธิบายรัฐธรรมนูญ หรือตอบปัญหาข้อสงสัย เว้นแต่ จะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นในเรื่องอำนาจหน้าที่ ดังนั้นการเสนอร่างแก้ไขมาตรา 256 หากทางสำนักกฎหมายของสภา มองว่าไม่สามารถทำได้ ก็จะทำให้เกิดข้อขัดแย้งที่สามารถส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญได้  และหากศาลรัฐธรรมนูญตีความออกมาอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติตามซึ่งหากสามารถทำได้ก็จะทำให้ทำประชามติเพียงแค่ 2 ครั้ง ยืนยันไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่นเพียงแต่ต้องการจะหาข้อยุติในเรื่องนี้

ส่วนเรื่องของกฎหมายประชามตินั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า คณะทำงานของพรรค ได้มีการพูดคุยกันแล้วและมีมติว่าจะขอแก้ไขกฎหมายประชามติด้วยโดยขณะนี้ยกร่างเสร็จแล้วแก้ให้ใช้กฎหมายธรรมดาแต่มีเงื่อนไขว่า เสียงประชามติต้องไม่ต่ำกว่าเสียงประสงค์ไม่ลงคะแนน และเสนอว่าการประชามติอาจทำไปพร้อมๆกับการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติหรือระดับท้องถิ่นได้เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ และเสนอว่าการทำประชามติในอดีตเป็นการลงคะแนนโดยใช้บัตรว่าเห็นชอบหรือไม่ แต่คิดว่าขณะนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าแล้วขอให้นำเทคโนโลยีมาใช้ โดยอาจใช้วิธีการทางไปรษณีย์ต่างๆได้ ซึ่งขณะนี้ ยกร่างเสร็จแล้วจะเสนอให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงชื่อและเสนอ ร่างกฎหมายต่อไป

TAGS: #ชูศักดิ์ #แก้รธน #แก้รัฐธรรมนูญ #ประชามติ #เพื่อไทย #ม256