รอดแล้ว!"พิธา"ไม่ผิดปมถือหุ้นไอทีวี มติศาลรธน.เอกฉันท์ยกคำร้องไอทีวีไม่เป็นสื่อแล้ว
องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยกกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดยในวันนี้นายพิธาเดินทางมาฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเอง
ผลการวินิจฉัยปรากฏว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยให้ความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่สิ้นสุดลง โดย นายพิธา ถือหุ้นไอทีวีในวันที่ พรรคก้าวไกล ยื่นสมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อ และ สถานะของบริษัท ไอทีวี หยุดดำเนินการตั้งแต่ สปน. บอกเลิกสัญญา ทำให้สิทธิในคลื่นโทรทัศน์หมดไป มีคดีพิพาทในศาลปกครองสูงสุด แต่ท้ายสุดแม้ไอทีวีจะชนะคดีก็ไม่ได้คลื่นคืน ทำให้ไม่มีสิทธิประกอบกิจการโทรทัศน์ตามกฎหมาย นอกจากนี้ไม่มีปรากฏว่ามีรายได้จากประกอบกิจการสื่อมวลชน ดังนั้น ณ วันที่นายพิธา ลงสมัคร สส. ทำให้ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย ปรากฏว่ากองเชียร์ที่เดินทางมาให้กำลังใจนายพิธา รวมทั้งบรรดาแกนนำ และสส.จากพรรคก้าวไกล ต่างเฮลั่นแสดงความดีใจที่นายพิธาจะได้กลับไปทำงานในสภาฯ หลังต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.มาตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.2565