"ธนาธร" มั่นใจ "ก้าวไกล" ไม่ถูกยุบ ปมล้มล้างการปกครอง

"ธนาธร" มั่นใจ "ก้าวไกล" ไม่ถูกยุบ ปมล้มล้างการปกครอง มอง กฎหมายร่างด้วยมือคน ก็สามารถแก้ไขได้ ตามหลักพื้นฐาน ชี้ การเข้ามานั่งในกมธ. ไม่ได้ปูทางกลับมาเล่นการเมือง

การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพ ไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปที่เหมาะสม  โดยมี สส. ที่เป็นคณะกรรมาธิการ จากพรรคการเมือง และบุคคลภายนอกเข้าร่วมประชุม 1 ในนั้น คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธานคณะก้าวหน้า เข้าร่วมด้วย 

นายธนาธร เผย ก่อนการประชุม  คิดว่ากมธ.ชุดนี้จะมีเป้าหมายในการศึกษาทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การบริหารของกองทัพที่เกี่ยวกับการพาณิชย์ว่ามีอะไรบ้าง รวมถึงดูว่าจะมีอะไรสามารถถ่ายโอนกลับเข้ามาที่กระทรวงการคลัง ทั้งนี้ เชื่อว่ากองทัพในปัจจุบันมีภารกิจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศเยอะมาก ทั้งสนามกอล์ฟ โรงแรม และศูนย์ประชุมต่างๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับภารกิจหลัก จึงเห็นว่าควรถ่ายโอนรายได้เหล่านี้ไปให้กระทรวงการคลัง และทำให้กองทัพมีความเป็นสมัยใหม่ 

เมื่อถามว่า จะหาจุดสมดุลระหว่างการเมืองกับกองทัพอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า ต้องใช้กมธ.ในการสนทนากัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศ ส่วนจะเป็นความขัดแย้งเรื่องการเมืองและกองทัพหรือไม่นั้น ประวัติศาสตร์มีมาแล้ว ในอดีตกองทัพไม่มีงบประมาณ​ ขอก็ไม่ได้ กองทัพก็ขอทรัพย์สินบางส่วนไปบริหารเองเพื่อจัดเป็นสวัสดิการให้กับทหาร แต่เวลาก็ผ่านมานานแล้ว หากกองทัพอยากมีสวัสดิการก็ต้องขอผ่านกลไกสภา เหมือนกระทรวงอื่นตามปกติ คิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะนำไปสู้ความขัดแย้ง การจัดสรรทรัพยากรเป็นเรื่องการเมืองอยู่แล้ว ดังนั้น จึงเป็นปัญหาการเมืองและเชื่อว่ากมธ.ชุดนี้ คงมีข้อสรุปที่เห้นร่วมกันได้ 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการมองว่าการที่นายธนาธรนั่งกมธ.ชุดนี้ เป็นการปูทางเข้ากลับเข้าสู่การเมือง นายธนาธร กล่าวว่า “ไม่หรอกครับ ทางพรรคก้าวไกลเห็นว่าผมติดตามเรื่องนี้มานาน จึงอยากให้มาช่วยนั่งในกมธ.ชุดนี้ ซึ่งผมก็ยินดี”

ส่วนกรณีที่นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากมธ.การกฎหมาย ร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรว่านายธนาธรไม่เหมาะสมที่จะนั่งกมธ.ฯ นายธนาธร กล่าวว่า “เป็นมาหลายกมธ.แล้ว ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรหากนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม นั่งประธานกมธ.ชุดนี้ นายธนาธร กล่าวว่า เชื่อว่านายจิรายุ จะทำหน้าที่อย่างเป็นธรรม และไม่ติดขัดอะไร 

ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 49 ว่า การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขณะเป็น หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า “ไม่ได้คาดหวังของคำวินิจฉัยว่าจะออกมาในทิศทางใด แต่ก็เชื่อว่าพรรคก้าวไกล จะไม่ถูกยุบ นอกจากนี้อยากให้สังคมมาร่วมกันคิดและมองในหลักการถึงร่างกฎหมายแต่ละฉบับว่า ”กฎหมายร่างด้วยมือคน จะสามารถแก้ไขได้ เพราะเป็นหลักการขั้นพื้นฐาน“ หากแก้ไขไม่ได้ คงเป็นเรื่องที่ผิดปกติของประเทศนี้ 

ทั้งนี้ จะมีความกังวลหรือไม่ว่าคำวินิจฉัยของศาลในวันนี้จะเป้นบรรทัดฐานให้การแก้ไขมาตรา 112 ทำให้ยากขึ้น นายธนาธร กล่าวว่า อยากให้ยึด อยากให้กลับมายืนในหลักการมั่นๆ ยืนยันว่าฝ่ายนิติบัญญัติแก้กฎหมายได้

TAGS: #ก้าวไกล #112 #ธนาธร