“ศิริกัญญา” แนะรัฐบาลต้องมีแผนสำรองหากดิจิทัลวอลเล็ตสะดุด แนะลดขนาดโครงการ-ใช้งบปี 68 แทน ลั่น รัฐบาลย้ำตลอดเศรษฐกิจวิกฤต แต่กลับเอาชะตากรรม เศรษฐกิจไปผูกไว้กับนโยบายเดียว

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เผยกรณีที่รัฐบาลเตรียมเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ท่ามกลางเสียงคัดค้านและข้อท้วงติงก่อนรัฐบาลจะนัดประชุมคณะกรรมการดิจิทัลฯ ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ว่า  แน่นอนว่า รัฐบาลควรมีแผนสำรองไว้รองรับ เพราะทราบกันดีว่าแนวทางที่รัฐบาลดำเนินการมีความเสี่ยง โดยอย่างแรก คือหากประเทศไทยมีปัญหาเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ต้องมีมาตรการออกมารองรับ ณ วันนี้แล้ว ไม่ใช่รอให้โครงการดิจิทัลฯ ออกมา แล้วจะสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ ไม่ใช่เราไม่เห็น ว่า รัฐบาลกำลังช่วยฟื้นเศรษฐกิจประเทศ แต่ผลที่จะทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นมีอยู่น้อยเหลือเกิน จนถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะออกหน้าไหน 

“วันนี้เรายังต้องลุ้นต่อว่าคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลฯ ชุดใหญ่ จะมีมติในทางไหน และเราก็ไม่รู้ว่าในท้ายที่สุดแล้ว หากดำเนินโครงการไปแล้วจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่างมีคนนำเรื่องไปร้องเรียนหรือไม่ ถึงแม้ว่ากฎหมายจะผ่านสภาได้ แต่อาจจะติดที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็จำเป็นที่จะต้องมีแผนสำรองไว้ เพราะเป็นรัฐบาลเองที่พูดไว้ตลอด ว่าเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ เศรษฐกิจวิกฤตแล้ว แต่กลับเอาชะตากรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ ไปแขวนไว้กับนโยบายนี้นโยบายเดียว ก็มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง”  น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

เมื่อถามถึงข้อเสนอแนะที่จะให้กับรัฐบาลก่อนจะมีการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลฯ ชุดใหญ่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ยิ่งต้องรีบหาแผนสำรองเพราะงบประมาณ ปี 68 มีความคืบหน้าค่อนข้างมากแล้ว ถ้ารัฐบาลอยากจะปรับปรุงนำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต มาใช้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีก็ต้องรีบทำ และถึงแม้จะนำงบประมาณ 5 แสนล้านบาทมาดำเนินการ ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี ซึ่งแผนสำรองก็อาจจะเป็นการลดขนาดโครงการ และนำไปใช้ในงบประมาณ ปี 68

“นี่ไม่ใช่ข้อเสนอที่เราเห็นด้วยกับการเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่มันคือทางออกทางเดียวที่ยังเหลืออยู่ หากสุดท้ายแล้วพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน เดินหน้าต่อไม่ได้ สำหรับดิฉันหากจะมีมาตรการอะไรที่สามารถใช้งบกลางในตอนนี้ ออกโครงการมาได้เลยไม่ต้องรอ แต่ขนาดโครงการอาจจะต้องเล็กลงมา แต่ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย” น.ส.ศิริกัญญากล่าว