"ชาดา"อารมณ์ยังค้าง ซัด "พิเชษฐ์"อย่าอ้างข้อบังคับ แซะคุยข้างนอก ชวนไปต่อยหรือไม่ พร้อมรับคำท้า "ชัยธวัช"เปิดหลักฐานเบื้องหลัง “ทะลุวัง”
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันทำหน้าที่เป็นกลางในการเปิดภาพตนเองโดยไม่เบลอหน้าในที่ประชุมสภาพิจารณาญัตติเรื่องการขัดขวางขบวนเสด็จ นั้น ตนเองไม่ได้บอกว่านายพิเชษฐ์ ไม่เป็นกลาง แต่วิธีคิดที่จะมาอ้างระเบียบสภาฯ ซึ่งค้านกับกฎหมายพีดีพีเอ ที่เป็นพระราชบัญญัติไม่ได้ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ใช่ว่าคุณดูแต่รูป คุณต้องดูเนื้อหาความเสียหาย
ทั้งนี้ไม่อยากจะเถียง แต่ในเมื่อบอกมาอย่างนี้ ตนเองอาวุโสที่มีสติ มีสมอง การที่จะกระทบบุคคลอื่นต้องฟังเนื้อหาในการอภิปรายว่าผู้ที่มีรูปจะเสียหายหรือไม่
“ต่อไปนี้ผมก็จะเอารูปคนที่ระเบียบสภาฯอนุญาตจะขึ้นได้ แล้วผมเอามาด่าได้ใช่หรือไม่ อย่ามาเถียงกันเรื่องแบบนี้ ผิดต้องยอมรับผิด คุณอย่ามาอ้างระเบียบ คุณต้องอ้างถึงความเหมาะสม การทำงานต้องมีวิจารณญาณ ในเมื่อเกี่ยวกับบุคคลอื่น ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยส่งแค่เป็นรูปเอไอยังไม่อนุญาตเลย” นายชาดา กล่าว
สำหรับทีนายพิเชษฐ์ ระบุว่า สามารถไปพูดคุยกันข้างนอกได้ นายชาดา กล่าวว่า “ก็ไม่ทราบ จะท้าไปต่อยหรือไม่” พร้อมหัวเราะ
นายชาดา กล่าวอีกว่า ตนเองคุยเฉพาะในเรื่องของงานแค่นั้น แต่ถ้ายังไม่ยอมรับการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ก็ไม่มีอะไรจะคุย สำหรับเรื่องนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงความเหมาะสม ใครไม่ถูกได้กระทำ ก็ไม่ทราบ
สำหรับเดินเข้าไปคุยกับ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในห้องประชุมสภานั้น ไม่ได้เคลียร์ แต่ไปบอกว่าคุณไม่ชัดเจน คุณทำแบบแอบแฝงไม่ใช่ลูกผู้ชาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ท้าให้เปิดหลักฐานผู้อยู่เบื้องกลุ่มทะลุวัง นั้น นายชาดา กล่าวว่า ตนเองจะต้องไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคง ตนเองเปิดอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัว แต่ขอให้ถามมาในระบบ จะตอบในระบบ เนื่องจากต้องอ้างอิงบุคคลที่สาม ส่วนจะเป็นพรรคไหนนั้น ใครอภิปรายชัดเจนก็คนนั้นแหละ และย้ำว่าไม่มีพรรคอื่น
“ใครพูดมาหรอกครับว่าจะเป็นพรรคอื่น ผมก็ตอบไปว่าไม่มีพรรคอื่น ผมไม่อยากทะเลาะกับคนพวกนี้ แต่อยากสกัดกั้นคนที่ทำไม่ดี” นายชาดา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ภายหลังจาก นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นขอใช้สิทธิพาดพิงทันที
ทั้งนี้ นายชาดา ได้กล่าวถึงสิ่งที่ นายพิเชษฐ์ ชี้แจงกรณีรูปคู่กับศปปส. ระบุว่า ท่านประธานไม่จบ จึงมาพูดต่อ การมาพูดบนบัลังถือว่า ไม่อยู่ในที่ประชุม หรือจะให้ฟ้องดู ท่ายประธาน ผมพูดถึงเจ้าหน้าที่แต่คำแถลงของ มันไม่เหมาะสม แล้วเป็นเรื่องที่ท่านไม่จบ ผมจบแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้ว่าท่านว่าท่านลำเอียง
ขณะที่ นายพิเชษฐ์ ตัดบทเข้าสู่วาระการประชุมต่อ ทำให้ นายชาดา ได้ลุกขึ้นถามว่า “ประธานอยากคุยกับผมข้างนอกใช่ไหมครับ งั้นเชิญได้เลยครับ” ในขณะที่ นายพิเชษฐ์ ตอบว่า “เดี๋ยวผมทำหน้าที่ของผมก่อน ผมไม่ใช้นักเลง ผมไม่ใช่เจ้าพ่อ”
จากนั้นนายชาดา โต้กลับว่า ประธานพูดเอง แล้วใครนักเลง ซึ่ง นายพิเชษฐ์ กล่าวตอบว่า เดี๋ยวผมทำหน้าที่เสร็จแล้วเจอกันข้างนอก” ซึ่งนายชาดา ก็ตอบกลับว่า “ครับ ตอนไหนก็ได้ สำหรับผม แต่ประธานพูดเองว่าเจอกันข้างนอก”
อย่างไรก็ตาม นายชาดา ยังให้ขอให้ นายพิเชษฐ์ ถอนคำพูด “นักเลง” ซึ่งนายพิเชษฐ์ ยอมถอนคำพูด แต่ยังพูดต่อไปว่า “แล้วไปเจอกันข้างนอก” ก่อนจะตัดบทเข้าสู่วาระการประชุมต่อไป
ขณะเดียวกัน ระหว่างนั้นส.ส.รวมไทยสร้างชาติ เสนอให้ปิดประชุม เพราะบรรยากาศห้องประชุมไม่ดี แต่ส.ส.พรรคก้าวไกลไม่ยอมขอให้ประชุมต่อ ซึ่งนายพิแชษฐ์ก็ดำเนินการประชุมต่อไป
