ทักษิณ กลับบ้านแล้ว! ออกจาก รพ.ตำรวจ ถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า 

ทักษิณ กลับบ้านแล้ว! ออกจาก รพ.ตำรวจ ถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า 
“ทักษิณ” ออกจากรพ.ตำรวจ กลับบ้านจันทร์ส่องหล้าแล้ว ในรอบ 17 ปี ด้านคปท.ยันไม่บุกไปบ้าน เตรียมยื่นให้รับโทษใหม่ หากป.ป.ช.วินิจฉัยข้าราชการเอื้อประโยชน์

ความเคลื่อนไหวที่โรงพยาบาลตำรวจในเช้ามืดวันนี้(18 ก.พ.)  เวลา 06.09 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมกับบุตรสาว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนางสาวพินทองทาที่เดินทางไปรับ ภายหลังเข้ารับโทษเป็นเวลา 6 เดือน และได้รับการพักโทษ ซึ่งครบกำหนดในวันนี้ 

โดยนายทักษิณกับบุตรสาวทั้งสองคน นั่งรถตู้เบนซ์ สีดำ ทะเบียน ภษ 1414 ออกมาจากอาคารคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมกับรถติดตาม รวมทั้งหมด 4 คัน ซึ่งนายทักษิณนั่งฝั่งซ้ายของรถ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นใส่กางเกงขาสั้น สวมหน้ากากอนามัย พร้อมสวมเฝือกอ่อนที่คอ และใส่เฝือกสีดำที่แขนขวา ส่วนนางสาวแพทองธารนั่งฝั่งขวา ขณะที่นางสาวพินทองทานั่งด้านหลัง 

จากนั้นเวลา 06.32 รถของนายทักษิณได้ขับถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 เขตบางพลัด ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่มาเฝ้าติดตามรายงานข่าวตั้งแต่คืนวานนี้(17 ก.พ.) โดยนายทักษิณไม่ได้เปิดกระจกออกมาทักทายหรือหยุดรถเพื่อให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยดูแลความปลอดภัยเรียบร้อย 

จากนั้นเวลา เวลา 07.02น. ได้เจ้าหน้าที่ออกมาจากบ้านพัก เพื่อมาปลดป้ายยินดีต้อนรับนายทักษิณกลับบ้าน ที่ทางหลานๆ ของนายทักษิณเป็นคนเขียนขึ้นมาและนำมาติดไว้ที่หน้าประตูบ้านตั้งแต่วานนี้ เพื่อนำกลับไปให้นายทักษิณภายในบ้านพัก

ทั้งนี้ สื่อมวลชนทุกสำนัก ต่างมาปักหลักรอทำข่าวการกลับบ้านจันทร์ส่องหล้าของนายทักษิณครั้งแรกในรอบ 17 ปี ตั้งแต่ช่วงวานนี้ (17 ก.พ.) จนถึงเช้าวันนี้ (18 ก.พ.) ขณะเดียวกันยังมีอดีตรัฐมนตรีและแฟนคลับของนายทักษิณเดินทางมาติดตามบรรยากาศและรอให้กำลังใจนายทักษิณด้วยคือ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในสมัยรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เดินทางมาพร้อมกล่าวว่า เชื่อว่าความคิดของนายทักษิณน่าจะช่วยให้ประเทศเจริญกลับมาเหมือนสมัยปี 2544 ได้ แม้นายทักษิณจะกลับมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ แต่ให้ความเห็นลอยๆไปทางสื่อโซเชียล แล้วรัฐบาลก็ลองดูว่าจะรับไปทำหรือไม่ เช่นเดียวกับป้าต้อย เสื้อแดง ซึ่งบ้านอยู่ตรงข้ามห้างตั้งฮั่วเส็ง ได้ใส่ชุดสีแดง ปั่นจักรยานมากลางดึก พร้อมกับภาพถ่ายที่ถ่ายกับนายทักษิณที่ประเทศกัมพูชา โดยป้าต้อยบอกว่าภาพนี้ถ่ายไว้ประมาณ 17 ปีแล้ว รักนายทักษิณมาก จึงอยากมาให้กำลังใจ 

สำหรับบรรยากาศที่โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่วานนี้(18 ก.พ.)  มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด บริเวณทางเข้า-ออก ตำรวจทั้งในและนอกเครื่อง นำรั้วเหล็กมาปิดกั้น โดยสามารถให้รถสัญจรเพียง 1 ช่องทางเท่านั้น พร้อมติดป้ายระบุว่า “ประกาศ โรงพยาบาลตำรวจเป็นพื้นที่ทางการแพทย์ ห้ามมิให้มีการชุมนุมสาธารณะ ตาม พรบ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 8 พ.ศ. 2558 ภายหลังสืบทราบว่ากลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือคปท. จะรวมตัวเดินทางมาจัดกิจกรรม

ต่อมาเมื่อเวลา 23.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 20 คน นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล ได้รวมตัวกันชุมนุมบริเวณทางบาทวิถีอย่างสงบเรียบร้อย ซึ่งนายพิชิต กล่าวว่า ทางกลุ่มตนและกลุ่มศปปส. ได้แสดงจุดยืนมาโดยตลอดว่า ไม่เห็นด้วยกับการพักโทษของอดีตนายกรัฐมนตรี วันนี้กลุ่มตนจึงมาแสดงออกเพื่อคัดค้านการพักโทษ แต่ไม่มีเจตนาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่แม้แต่อย่างใด นอกจากนี้หากปล่อยตัวแล้วเดินทางกลับ ก็จะสะท้อนให้เห็นว่า สิ่งที่คปท. ตั้งข้อสังเกตุที่อดีตนายกไม่ได้มีอาการป่วยหนักเป็นความจริง อีกทั้งตนเห็นว่าคดีอายัดตัวในความผิดมาตรา 112 หากปล่อยไว้นานก็อาจจะมีการแทรกแซงการทำงานของอัยการได้ หลังจากนี้ คปท.จะไปสอบถามกองทัพบก ในฐานะผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งเป็นองค์กรที่ต้องปกป้องสถาบัน 

นอกจากนี้นายพิชิต ยังประเมินอีกว่าหากนายทักษิณ พักโทษที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ก็จะมีนักการเมืองไปหา ดังนั้นบอกว่าไม่แทรกแซงการเมืองคือไม่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามกลุ่มคปท.จะไม่ไปบ้านจันทร์สองหล้า เพราะคิดว่าเป็นการคุกคามสิทธิส่วนบุคคล ส่วนหากนายทักษิณได้รับการลงโทษ แล้วมีส่วนได้เข้าไปนั่งในตำแหน่งของรัฐบาลกลุ่ม คปท.จะคัดค้านหรือไม่นั้น บุคคลที่เพิ่งพ้นโทษ จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวการเมืองไม่ได้ แต่ถ้านายกรัฐมนตรีจะใช้นายทักษิณช่วยเหลืองานเป็นการส่วนตัว คปท.จะต้องท้วงติงในความเหมาะสม 

ส่วนกรณีที่ คปท.ได้ยื่น ป.ป.ช. ให้ตรวจข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณนั้น ตอนนี้ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องพิจารณาไว้แล้ว และจะเกี่ยวพันกับเรื่องที่ คปท.เตรียมจะยื่นให้พิจารณาว่าจะมนับโทษใหม่หรือไม่ ถ้า ป.ป.ช.วินิจฉัยว่าข้าราชการใช้สิทธิ์ และใช้อำนาจเอื้อต่อกรณีนี้เป็นพิเศษ ก็อาจจะมีการนับโทษใหม่อีกด้วย

 

TAGS: #ทักษิณ #อุ๊งอิ๊ง #จันทร์ส่องหล้า #ทักษิณกลับบ้าน