หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยอัดพรรคการเมืองหาเสียงขึ้นเงินเดือน "อสม.-อบต." เป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าโดยใช้ภาษีของประชาชน ลั่นทำไมไม่ใช้เงินตัวเอง และหากเห็นคุณค่าควรสนับสนุนมานานแล้วทำไมไม่ทำก่อนหน้านี้

เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2566 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงในเขตบางรัก และเขตสาธร ถึงเรื่องครม.อนุมัติงบประมาณหลายวาระและมีบางพรรคอ้างใช้หาเสียงเป็นผลงานของพรรคนั้นๆ ว่า  เป็นเรื่องเลวทรามที่รัฐบาลไม่ควรทำ เพราะทำเพื่อประโยชน์ในการหาเสียงของพรรคนั้นๆ 

"การใช้งบประมาณไปขึ้นเงินเดือนให้อสม.และอบต.นั้น ทำไปเพื่ออะไร ก่อนหน้านี้ทำไมไม่ทำ อสม.และอบต.อย่าไปคิดว่ารัฐบาลเห็นคุณค่า หากเห็นคุณค่าควรสนับสนุนมานานแล้ว ทำแบบนี้คือซื้อเสียงล่วงหน้า โดยใช้ภาษีของประชาชน  ทำไมไม่ใช้เงินตัวเอง" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้รัฐบาลไม่เข้าใจการบริหารงบประมาณ ตอนนี้เงินกู้ของรัฐบาลเกินเพดานแล้วและต้องกู้เงิน  งบประมาณไม่ควรจ่ายดันไปจ่าย เช่นการซื้ออาวุธ การที่รัฐบาลทำแบบนี้คือโง่ และการอ้างขึ้นเงินเดือนให้อสม.และอบต.นั้น ยืนยันว่าโง่จนประเทศเสียหาย และการนำงบประมาณนี้ไปใช้หนี้ให้ประเทศจะเกิดประโยชน์กว่า วันนี้เงินกู้ที่รัฐบาลนี้กู้มานั้น ประเทศต้องเสียดอกเบี้ยนาทีละ26ล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กู้มาไม่ต้องใช้หนี้และคนอื่นต้องมาใช้หนี้แทน รัฐบาลนี้ทำแบบนี้เลวทรามบัดซบ เพราะ ไม่เหมือนประชาชนที่กู้เงินมาแล้วหากไม่มีเงินใช้หนี้ต้องโดนยึดบ้าน  และขอแนะนำประชาชนตอนนี้ควรประหยัด หากตนได้เป็นรัฐบาลจะตรวจสอบเรื่องนี้แน่นอน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  ยังกล่าวถึงการส่งผู้สมัคร ของพรรคเสรีรวมไทยว่า ยืนยันส่งผู้สมัคร ส.ส.400เขตทั่วประเทศ  เชื่อว่าน่าจะได้ส.ส.สองระบบมากขึ้น เพราะตนเองสนับสนุนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกเขต และบางเขตใน กทม.นั้น เช่น เขตภาษีเจริญ พบว่าอดีตว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคคะแนนเสียงดี พรรคก็ดูแลและสนับสนุน  แต่ตอนนี้โดนบางพรรคซื้อตัวไป บางพรรคแย่เพราะไปฉกชิงวิ่งราวส.ส. ตั้งแต่สมัยสภาผู้แทนราษฎรไม่หมดอายุ ส.ส.ในพรรคของตนยังโดนซื้อตัว การเมืองเลวร้ายบัดซบมากในตอนนี้

สำหรับการจับขั้วหลังเลือกตั้งนั้นว่า ตนเองมีสิทธิเลือกว่าจะจับมือกับขั้วใด เพราะยืนฝ่ายประชาธิปไตยไม่ใช่เผด็จการ โดยเฉพาะการไม่จับมือกับ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยอาจจับมือกับพรรคพลังประชารัฐหลังการเลือกตั้งนั้นเป็นสิทธิของพรรคนั้นๆ  หากพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคใด เช่น จับมือพรรคพลังประชารัฐ หากตนเองไม่ต้องการ ก็ต้องมาอยู่กับพรรคของพล.อ.ประยุทธ์ ทุกอย่างควรเข้าใจข้อเท็จจริงด้วย