นายกฯ เเจงประเด็นถูกวิพากษ์วิจารณ์ผลงานการเยือนต่างประเทศ ขออย่าด้อยค่าประเทศไทย หลายภาคธุรกิจต้องใช้เวลาในการพูดคุย ซึ่งมั่นใจจะเห็นผลสำเร็จในอนาคต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ชี้แจงในเรื่องของประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลงานในการเดินทางเยือนต่างประเทศที่ผ่านมา โดยได้ระบุว่าการลงทุนระดับใหญ่ ขนาดใหญ่ ใช้เวลาในการตกลงค่อนข้างนาน อาจจะไม่เห็นผลสรุปภายในสองถึงสามเดือน ซึ่งต้องยอมรับว่า หลายเรื่องเป็นโครงการที่ต่อยอดมาจากรัฐบาลที่แล้ว โดยขอให้ผู้วิพากษ์วิจารณ์อย่าด้อยค่าประเทศไทย การทำงานที่ผ่านมาของนายกรัฐมนตรีไม่ใช่เพียงแค่ส่วนเดียว แต่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง BOI กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้ร่วมงานกับทีมสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในการจัดการ โดยในการทำงานที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องง่าย อาทิ ในประเด็นเรื่องวีซ่า ก่อนที่วีซ่าจีนจะสำเร็จก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เราให้วีซ่าจีนเพียงฝ่ายเดียว แต่ก็ทำจนสำเร็จ ซึ่งรัฐบาลจะทยอยทำ เพิ่มคุณค่าให้กับพาสปอร์ตไทย ทั้งนี้ ในส่วนของสหภาพยุโรปมีหลายประเทศ จึงต้องใช้เวลาในการพูดคุย

ในส่วนของการลงทุน อาทิ ประเทศไทยต้องการจะเป็น Data Center การลงทุนเป็นแสนล้าน ต้องมีการศึกษาสิ่งแวดล้อม การซื้อที่ดิน ศึกษากฎหมาย ซึ่งในประเด็นนี้สอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรีประกาศวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND เสริมศักยภาพประเทศไทย

ดังนั้น การวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลไม่มีผลสำเร็จ สิ่งที่นายกรัฐมนตรีห่วงกังวลคือ อาจทำให้ทีมงาน ข้าราชการไม่สบายใจ ซึ่งที่ผ่านมาทีมงาน ข้าราชการ ทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย มีการจัด meeting จัดเตรียมเอกสาร จัดเวลาให้ลงตัว ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เชื่อว่าจะเห็นผลมากขึ้นต่อไป ซึ่งต่อจากนี้ ในวันที่ 21 มีนาคมนี้ บริษัท Microsoft จะประกาศข่าวดีที่ประเทศไทย พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีระบุว่าหลายหลายบริษัทมีการทำความตกลงแล้ว แต่เรื่องบางอย่างยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผยข้อมูลยังต้องเก็บให้เป็นความลับ

ประเด็นของแฟชั่นผ้าขาวม้า นายกรัฐมนตรีแจ้งว่า ตนเองไม่ใช่คนติดแฟชั่น ที่นำไปก็ไม่ได้ซื้อมา พี่น้องประชาชนเอามาให้ด้วยความรักความผูกพัน จึงอยากตอบแทนด้วยการใส่ให้ชาวโลกเห็นว่า เมืองไทยมีสินค้าดี 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้เชิญแฟชั่นเฮ้าส์เพื่อมาร่วมมือกับประเทศไทย และจะมีการหารือกันในรายละเอียดต่อไป โดยประเด็นที่เป็นข่าวดีคือ ในเดือนพฤษภาคมนี้ นักธุรกิจฝรั่งเศสกับนักธุรกิจไทยจะนัดพบหารือกันอีกครั้ง และในเดือนกันยายน นักธุรกิจฝรั่งเศสจะเดินทางมาประเทศไทย และประธานาธิบดีมาครงก็ตอบรับที่จะมาเยือนไทยภายในปีนี้ด้วย

ในส่วนของการแข่งรถ Formula One และ Formula E นั้น ในวันที่ 16 มีนาคมนี้ ผู้บริหารบริษัท Formula E จะพบพูดคุยกับนายกฯ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในส่วนของ Formula One จะจัดขึ้นได้เร็วที่สุดในปี 2027

ต่อกรณีที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า เป็นผู้ที่ได้รับความชื่นชอบเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในช่วงเวลานาน และจากบ้านถึง 17 ปี จึงทำให้มีพี่น้องประชาชนอยากพบเจอ ซึ่งส่วนของตนเองนั้น ยังไม่ได้ทำการนัดหมายกันและมีภารกิจที่จังหวัดเชียงใหม่แน่นมาก

ในส่วนของการแถลงข่าว เป็นการตีความจากสื่อมวลชนว่า เป็นการแถลงผลงานแต่เเท้จริงแล้ว เป็นการแถลงเรื่องผลการลงทุนโดยเลขาธิการ BOI และประธานผู้แทนการค้า จะร่วมกันแถลงในวันที่ 26 มีนาคม 2567 โดยจะมีการรายงานความคืบหน้าต่อคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ จะเป็นการรายงานโดยละเอียดว่า ส่วนไหนอยู่ในขั้นตอนไหน และจะนำมาเปิดเผยให้ได้มากที่สุด