"สุดารัตน์" ระบุ ความขัดแย้งการเมืองฉุดรั้งการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ ประกาศ ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ รื้อแผนยุทธศาสตร์ชาติและเขียนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมใหม่
ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ibusiness จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี ภายใต้หัวข้อ “The NEXT Thailand’s Future "จุดเปลี่ยนประเทศไทยสู่ความยั่งยืน" ในวันที่ 9 มีนาคม 2566 โดยในส่วนของการเสวนาภาคการเมือง ได้เชิญ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ กรรมการยุทธศาสตร์เศรษฐกิจและการเมือง พรรคพลังประชารัฐ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย และนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมแสดงวิสัยทัศน์
คุณหญิงสุดารัตน์ ตั้งคำถาม ถึงความขัดแย้งทางการเมือง ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา ซึ่งขัดขวางการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ พรรคไทยสร้างไทย จึงมีเป้าหมายการสร้างเศรษฐกิจเพื่อนำไปสู่ชัยชนะของพี่น้องประชาชน
จะสร้างเศรษฐกิจให้ประชาชนอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี พร้อมชี้ให้เห็นว่าปัจจุบัน หนี้ครัวเรือนของประเทศสูงถึง 90% ของ GDP สัดส่วนคนจนเพิ่มสูงขึ้นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเป็น 20 ล้านคน ทั้งหมดทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตช้าและลดลง ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา การบริหาร เศรษฐกิจของประเทศ ทำให้GDP เติบโตได้เพียง 2-4% ขณะที่เพื่อนบ้านเติบโตได้ 6- 8% FDI จากที่เคยเติบโตถึงกว่า 40% ปัจจุบันเติบโตเพียง 4%เท่านั้น ดังนั้น ทางรอดของเศรษฐกิจไทย คือต้องปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ พร้อมกับการรื้อยุทธศาสตร์ชาติใหม่ เขียนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมใหม่
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ เราต้องปรับโครงสร้างปัญหาภายในประเทศโดยการ LIBERATE และ EMPOWER ประชาชนจากรัฐราชการและกฎหมายที่กดทับเป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากิน ที่ผ่านมา SMEs และคนตัวเล็กไม่สามารถเดินต่อไปได้เนื่องจากถูกกดทับจากรัฐราชการ พรรคไทยสร้างไทยจึงเสนอ พักหรือแขวนการขอใบอนุมัติ อนุญาต ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของคนตัวเล็กประมาณ 1,300 ฉบับถึง 1,500 ฉบับไว้ชั่วคราว 3-5 ปี โดยจะเหลือใบอนุญาตที่จำเป็นไม่เกิน 100 ฉบับ
จากนั้นพรรคไทยสร้างไทยมาจะ Empower ประชาชน ด้วยการแก้หนี้เติมทุนสร้างแต้มต่อ ผ่านกองทุนสร้างไทยมูลค่า 3 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็น การบริหารโดยเอกชน ให้ SMEs ผู้ประกอบการรายเล็กผู้ประกอบการรายย่อย สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ นอกจากนี้จะต้องยุติการทุจริตเชิงนโยบาย ที่กัดกินประเทศ เช่น นโยบายด้าน ค่าไฟที่เป็นปัจจัยการผลิต พรรคไทยสร้างไทย ขอประกาศลดค่าไฟฟ้าให้เหลือเพียงหน่วยละ 3.5 บาทเท่านั้น รวมถึงเร่งเอาผิดคนโกงมาติดคุก ขณะเดียวกัน พรรคไทยสร้างไทยจะเข้ามาพลิกวิกฤตโลกให้เป็นโอกาสกาส พร้อมปฏิวัติการศึกษาเพื่อสร้างให้คนไทยก้าวทันโลก
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ยืนยัน จะเข้ามาสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ รัฐบาลไทยสร้างไทยจะแก้หนี้ด้วยการสร้างรายได้ ไม่ใช่กู้มาโกง จากฐานความเข้มแข็งเดิมของไทย ซึ่งเราต้องทำทันที่คือ
สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมุ่งเป้าไปที่นักม่องเที่ยวคุณภาพสูง การสร้างให้ไทยเป็นมหาอำนาจด้านเกษตรและอาหาร รวมถึงการต่อยอดธุรกิจสุขภาพ สู่การเป็น "WellBeing Hub" ของโลก เพื่อสร้างรายเพิ่มให้กับประเทศ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มีมูลค่ากว่า 150 ล้านล้านเราขอส่วนแบ่งเพียง 1% เราจะมีรายได้เข้าประเทศ 1.5ล้านล้าน รวมถึงการเป็น Digital economy Hub ของโลก ต้องสร้าง Ecosystem ให้ Startup ไทย สามารถเข้าถึงเงินทุน ความรู้และตลาดได้ง่าย และต้องแก้กฎหมายทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของพวกเขา ทำให้ไทยเราเป็น Digital Economy Hub
พรรคไทยสร้างไทย จะสร้างโอกาสจากวิกฤตของโลก ภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อดึงดูดฐานการผลิตจากจีน ดึงดูดตลาดจากฮ่องกง
และสร้าง Global Mega Project เพื่อรีสตาร์ทเศรษฐกิจไทย พร้อมสร้างไทยให้เป็น Global Gateway เพื่อเป็นศูนย์กลางเชื่อมโลก เชื่อมการเดินทาง และการขนส่ง ทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ของภูมิภาคเพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก
นอกจากนี้ หากพรรคไทยสร้างไทยเป็นรัฐบาล จะมีการเจรจาเพื่อให้เกิดความร่วมมือ ข้อตกลงด้านการค้าการลงทุน Chaina India Thailand Economic initiative ซึ่งประชากรรวมกันกว่า 2,900 ล้านคนหรือ 36% ของประชากรโลก เศรษฐกิจรวมกันใหญ่ถึง 22.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ26% ของเศรษฐกิจโลก เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันที่ยั่งยืนของทั้งสามประเทศ โดยทันทีที่ได้เป็นรัฐบาลจะบินไปพบประธานาธิบดีจีน และนายกฯอินเดียเพื่อเชิญชวนให้ร่วมจับมือกัน