นายกฯฟังแผน สร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา รับสานต่อโครงการ มั่นใจ ทำได้ ถ้าได้ทำ

นายกฯฟังแผน สร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา รับสานต่อโครงการ มั่นใจ ทำได้ ถ้าได้ทำ
นายกฯ ลงใต้  รับฟังแผนโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาฯ เห็นใจชาวบ้านเดือดร้อน  เหน็บ ทำไมที่ผ่านมาถึงไม่ทำ  รับ ช่วงนี้ปลายรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง แต่จะรับโครงการไปศึกษาต่อ มั่นใจ ต้องทำได้ ถ้าได้ทำ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจราชการ ที่ จังหวัดสงขลา และจังหวัดยะลา เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ นายกฯ มาที่ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา โดยมีพลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา  รมว.มหาดไทย  นายธนกร  วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายเจือ ราชสีห์ อดีตส.ส.ร่วมลงพื้นที่ด้วย 

ก่อนลงตรวจราชการ จ.สงขลา นายกรัฐมนตรีเดินทางเข้าสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสงขลา ได้ถวายเครื่องเซ่นไหว้ พร้อมกับตีกลอง ตีระฆัง 5 ครั้ง เป็นการกราบไหว้ขอพรให้ประเทศ,ประชาชนมีความสุขปลอดภัยและทำงานสำเร็จ เพื่อความเป็นสิริมงคลเอาฤกษ์เอาชัยก่อนลงพื้นที่  มีประชาชนจำนวนหนึ่งมารอต้อนรับให้กำลังใจนายกฯและคณะ มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและข้าราชการรวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีคนรุ่นใหม่ เด็กๆ ในพื้นที่มาต้อนรับด้วย

จากนั้นได้เดินทางต่อไปดูพื้นที่แพขนานยนต์ บริเวณประติมากรรมหัวพญานาค สวนสองทะเล เทศบาลนครสงขลา เพื่อตรวจเยี่ยมรับฟังความเห็นการศึกษาแผนการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา เพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรให้ประชาชนเดินทางเชื่อมต่อจากอำเภอเมืองสงขลา กับ อำเภอสิงหนคร  โดยมีประชาชนในพื้นที่และใกล้เคียงมารอต้อนรับให้กำลังใจนายกฯกว่าพันคน 

ทั้งนี้ นายกฯ ได้รับฟังรายงานสรุปข้อมูลการยกระดับโรงพยาบาลอำเภอเมืองสงขลา พร้อมกล่าวกับประชาชนชาวสงขลา  ว่า  วันนี้ดีใจได้เห็นประชาชนชาวจังหวัดสงขลาได้มาเยือนอีกครั้งเห็นรอยยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ต้องขอโทษที่ให้จับมือยังไม่ได้ เพราะยังเจ็บอยู่ แต่เดี๋ยวก็คงหายเพราะเห็นรอยยิ้มแบบนี้  เมื่อเช้าไปสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล ก็ได้ขอพรศาลเจ้าพ่อ และเทพเจ้าให้ประเทศชาติประชาชนมีความสุข ปลอดภัยและให้รัฐบาลทำงานได้สำเร็จ  ทั้งนี้เพื่อพี่น้องพวกเราทั้งประเทศด้วยและโดยเฉพาะชาวสงขลาในวันนี้ซึ่งน่าเห็นใจเป็นเมืองท่องเที่ยวมีหลายอย่างแต่รายได้ค่อนข้างน้อยเพราะเป็นพื้นที่ราชการส่วนใหญ่  โดยมีทั้งงบจากรัฐบาลและส่วนกลาง และงบจัดสรรให้จังหวัดซึ่งจะได้รับเรื่องไปทั้งหมดที่มีการนำเสนอรายงานมา แต่ตอนนี้ปัญหาคือเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดจึงเป็นช่วงท้ายของรัฐบาลแต่ก็จะรับไปศึกษา  อันไหนที่จะทำเข้าแผนได้ก็จะทำตอนนี้ ซึ่งก็เห็นใจความเดือดร้อนโดยเฉพาะเรื่องเรือข้ามฟาก นั่งรอเป็นชั่วโมงไม่ไหวกว่าสะพานจะเสร็จก็อาจจะแก่ ต้องไปดูเรื่องแพขนานยนต์ที่มีอยู่ 3 ลำ วิ่งตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำซึ่งอบจ.เป็นผู้รับผิดชอบ ก็รับจะไปดูแลให้ แต่ก็ต้องไปดูเรื่องราคาด้วย 

“ภาคใต้ ผมจำได้ว่าให้ความสำคัญมากที่สุด ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีอะไรผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันก็พยายามให้มา รวมยอดแล้วก็เยอะ ต้องไปทำในเรื่องที่ยังไม่ได้ทำ  วันนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำใหม่ ก็รับมา ซึ่งกลับไปกรุงเทพจะสั่งให้ทบทวนเรื่องทั้งหมด อันไหนที่จะทำและแก้ไขได้บ้าง ต้องเข้าตามกรอบวิธีการงบประมาณด้วย ซึ่งตนเห็นด้วยทุกอัน เมื่อมาเห็นหน้าตารอยยิ้มแย้มแจ่มใสก็ดีใจแต่พอฟังโครงการก็ปวดท้อง จึงคิดว่าทำไมถึงไม่ทำมาก่อนหน้านี้ จะได้เริ่มทำอะไรที่ใหม่กว่านี้บ้าง  ก็ต้องกลับมาทำเรื่องเดิมๆ ไม่เข้าใจ  เช่นเรื่องการกัดเซาะชายฝั่ง เห็นมีทำมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ครบและทำไม่ดี  ทุกเรื่องขอรับไป แล้วจะไปหาพิจารณาว่าจะดำเนินการกันอย่างไรเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์”

ระหว่างนั้นมีผู้ปกครองพาเด็กหญิงมาร่วมฟังนายกฯด้วย  โดยพลเอกประยุทธ์จึงทักทายว่า “ว่าไงจ้ะหนู ลูกใคร”  และได้อุ้มเด็กขึ้นโชว์บนเวที  ซึ่งประชาชนก็บอกว่า เด็กมาให้กำลังใจนายกฯลุงตู่  พลเอกประยุทธ์ บอกว่า ส่งเด็กมาหานายกฯเพื่อให้ นายกฯใจอ่อนใช่ไหม  กลัวเด็กตกใจคนเยอะ ไม่ต้องตกใจลุงนะ เพราะลุงใจดีจะตาย”

พลเอกประยุทธ์ ระบุอีกว่า ตนเข้าใจในความเดือดร้อนของทุกคน  รัฐบาลพยายามจะทำอย่างเต็มที่ในการให้ทุกคนมีความสุขอย่างทั่วถึง ส่วนปัญหาที่ซ้ำซากยาวนานก็ต้องแก้ไขอาจจะไม่สำเร็จในครั้งเดียว แต่ก็ต้องเดินหน้าไปเรื่อยๆ ทุกวัน ทุกกิจกรรม ไม่ใช่ไปก็ซ้ำของเดิมและสิ่งต่างๆก็ได้ทำมาเยอะพอสมควรแล้ว และได้รับเรื่องนี้ต่อซึ่งจะต้องทำเพราะสำคัญทุกเรื่อง เราจะต้องร่วมมือบูรณาการกัน ที่ผ่านมาเราได้ร่วมมือกันผ่านพ้นโควิดมาด้วยกัน เมื่อโควิดผ่านไปก็ต้องมีสะพานเพื่อจะเดินทางและมีการท่องเที่ยว ซึ่งยอมรับว่าเห็นใจในความเดือดร้อน

ระหว่างนั้นชาวบ้านตะโกน บอกว่า “นายกฯทำได้”ทำให้พลเอกประยุทธ์ ตอบรับทันที ว่า “มันต้องได้สิ ถ้าได้ทำนะ และผมก็ได้ทำแบบนี้มาโดยตลอดอยู่แล้วไม่ต้องกลัวหรอก วันนี้ยังไม่กล้าพูดใต้เพราะกลัวจะกลายเป็นสำเนียงอีสานไป แต่ ชาวบ้านก็อยากให้พูดภาษาใต้ ทำให้พลเอกประยุทธ์ แหลงใต้ว่า “รักจังหู้  หรอยแรง กินข้าวยัง ได้ม้าย (ได้ไหม)”เอาละสรุปไม่ต้องพูดแล้ว เพราะมันรู้ใจกันหมดแล้ว ว่าท่านต้องการอะไรและผมต้องทำอะไรต่อ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ต้องทำอะไรต่อให้มันต่อเนื่องจะได้เริ่มสิ่งใหม่ได้บ้าง ไม่ใช่วนกลับไปที่เก่า ทำแต่เรื่องเก่า  ซึ่งจะรับไปดูแลและวันนี้เป็นช่วงท้ายของรัฐบาลแล้วรู้หรือเปล่า แล้วจะไปสู่การเลือกตั้ง ผมไม่อยากพูดตรงนี้ หลายอย่างไม่ปกติที่ต้องทำ แต่ที่รับปากไว้ว่าต้องดำเนินการต่อให้ต่อเนื่องหาวิธีการให้สามารถทำได้  ซึ่งถ้ารัฐบาลไม่ดูแล  แล้วใครจะดูแล ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ทุกจังหวัดมีปัญหาทั้งหมด แต่ต้อง ดูแลให้ไม่มีปัญหากระทบกับเรื่องอื่นๆ เรื่องงบประมาณที่จำกัด คาดว่าอีก 3-4ปีงบประมาณจะมีเพิ่มขึ้นและดูแลได้มากขึ้นการลงทุนอื่นๆจะเกิดขึ้น  ซึ่งเป็นการวางวิสัยทัศน์ในระยะยาวให้ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่วยืน  ถ้าไม่มีวิสัยทัศน์ไม่มีแผน ไม่มียุทธศาสตร์ ก็เลิกพูดกัน เพราะพูดแล้วก็ไม่ได้ทำต่อ แบบนี้ใช้ไม่ได้ ผมไม่ได้ว่าใคร ขอให้ทุกคนมีความสุขสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง  ขอให้รักกันมากๆ ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ประชาชน  รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน นั่นคือหัวใจของนายกฯ 

จากนั้นนายกเดินทางไปที่ตลาดสันติสุขและตลาดกิมหยง ในตัวอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่ที่มารอต้อนรับให้กำลังใจกว่าพันคน โดยพลเอกประยุทธ์ ถูกแฟนคลับประชาชนชาวสงขลา รุมล้อมถ่ายรูปเซลฟี่และมอบดอกไม้ให้กำลังใจนายกฯ บริเวณสี่แยกตลาดกิมหยง  ซึ่งพลเอกประยุทธ์ได้ใช้โทรโข่งพูดกระจายเสียงให้ชาวบ้านได้ยินอย่างทั่วถึง ระบุว่า ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้การจราจรติดขัด พร้อมยกมือขวาชูขึ้น  และกล่าวขอโทษที่ยังไม่ให้จับมือ เพราะยังเจ็บอยู่ แต่มาหาด้วยใจจริง และก็ขอให้ประชาชนนั้นช่วยดูแลกันด้วย ดูแลบ้านเมือง ชาวบ้านต่างกรี๊ดดีใจที่ได้พบและถ่ายรูปกับนายกตัวจริง เสียงจริง 

ก่อนเดินทางต่อไปที่จังหวัดยะลา โดยในช่วงบ่ายเวลา16.30น. นายกรัฐมนตรี จะพบปะผู้นำดะวะห์และผู้เข้าร่วมบรรยายธรรม (โยร์) เพื่อต้อนรับเดือนรอมฎอน อันประเสริฐของชาวไทยผู้นับถือศาสนาอิสลาม ณ ศูนย์ดะวะห์แห่งประเทศไทย (มัรกัสยะลา) อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะพบปะผู้นำดะวะห์แห่งประเทศไทยและพบปะประชาชน

TAGS: #พล.อ.ประยุทธ์ #สงขลา #หาเสียง #รวมไทยสร้างชาติ