นายกฯ มอง “ชัยธวัช” ใช้คำพูดแรง กล่าวหารัฐบาล ล้มเหลว ถอยหลัง ไม่โปร่งใส วกวน ปิดบัง ทำลาย ก่อนร่ายยาวชี้แจงเป็นข้อๆ ลั่นจะกล่าวหาอะไร ขอหลักฐานด้วย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจง หลังนายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้านสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 แบบไม่ลงมติเป็นคนแรก ว่า มีความยินดีที่วันนี้ได้มารับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกทั้ง 2 ฝ่าย เป็นโอกาสที่ดีที่จะมาตอบข้อสงสัย และเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนพร้อมให้ความกระจ่าง ยืนยันว่าจะให้เวลา 2 วันนี้ เพื่อให้มีการพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์
สิ่งที่นายชัยธวัช พูดเริ่มต้นมาก็เป็นคำพูดที่แรงพอสมควร อย่างเช่นสิ้นหวัง ล้มเหลว ไม่โปร่งใส ไม่ปฏิรูป ถอยหลัง วกวน ปิดบัง ทำลาย แต่อย่างไรก็ตามก็มีอีกด้านหนึ่งเหมือนกัน เช่น มีหวัง สำเร็จ สิทธิ พัฒนา แทนที่จะเป็นปฏิรูป แม้จะใช้คำพูดถอยหลัง วกวน แต่เราต้องเดินหน้ากันไป ซึ่งปิดบัง เราก็มีความโปร่งใส เชื่อว่าหลายๆ อย่าง ที่รัฐบาลทำ พยายามทำเรื่องที่เป็นบวก อนาคต แสงสว่าง ที่ประชาชนจะได้เห็น แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่เป็นไร หากจะทำให้ประชาชนได้เห็น ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนพร้อมชี้แจง กับสิ่งที่ทำงานมาตลอด 6 เดือน และเพิ่งมีการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับมั่นใจว่ารัฐบาลทำงานด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง พร้อมให้ความกระจ่างกับสมาชิก
ทั้งนี้ในส่วนเรื่องของหนี้สินที่สมาชิกอภิปรายมา ที่ไม่มีการจัดการนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานเข้ามาดูแลเรื่องหนี้นอกระบบ และหนี้เกษตรกรได้มีการพักหนี้ ไม่ได้เพิกเฉย
ส่วนเรื่องของพลังงาน รัฐบาลได้ดูแลเรื่องของราคาน้ำมันเบนซิน และดีเซล ราคาไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลก็จะดูแลต่อไป ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมา เพราะรัฐบาลตระหนักดี
ในขณะที่เรื่องของยาเสพติดก็มีการทำงานกันอย่างชัดเจน ที่มีคณะทำงานประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงสาธารณสุข และกระบวนการยุติธรรมต่างๆ ซึ่งไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว รัฐบาลสามารถจับ ยาเสพติดได้มากกว่าปีก่อนนั้นทั้งปี
สำหรับเรื่องการท่องเที่ยว ที่จะทำให้ประชาชนมีรายได้เข้ากระเป๋ามากยิ่งขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการไปหลายอย่างเช่น วีซาฟรี เช่น ประเทศจีน ที่ทำให้การค้าระหว่างประเทศไปมาหาสู่ได้ดีขึ้น ดึงนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โรงแรมมียอดจองเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับร้านอาหาร และจะมีการยกระดับวีซาฟรีอีกหลายๆ ประเทศ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องใช้เวลา ซึ่งตอนนี้มีทิศทางที่ดี
ส่วนเรื่องของรายได้พี่น้องเกษตรกร ซึ่งมีอยู่หลาย 10 ล้านคน ยืนยันว่ารัฐบาลตระหนักดี เพราะรัฐบาลมี ส.ส.อยู่ 314 เสียง ที่เอาพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เช่น ราคายางพารา ที่ขณะนี้ราคาขึ้นมาอยู่ที่ เกือบ 100 บาทต่อกิโล จาก 30-40 บาทต่อกิโลกรัม เช่นเดียวกับราคาข้าว ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็ได้ไปเปิดตลาดใหม่ๆ ในหลายประเทศ และเรียกฑูตพาณิชย์มาทำงานกันอย่างบูรณาการ
ในด้านเรื่องฝุ่น pm 2.5 รัฐบาลได้เสนอร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ.....เพื่อบริหารจัดการและควบคุมกิจกรรมที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศในทุกมิติ ซึ่งแม้ปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ ที่ยังมีฝุ่น pm 2.5 ติดอันดับโลกอยู่ แต่ถ้านำไปเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาจะพบว่า จำนวนฮอตสปอตลดลงไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับสิทธิพื้นฐานให้กับประชาชน
ในขณะที่เรื่องของตัวตนบนเวทีโลก ตามที่สมาชิกบอกว่าตนเดินทางไปต่างประเทศบ่อย จึงอยากขอชี้แจงว่า จาก 10 กว่าครั้ง หรือเกือบครึ่งหนึ่ง เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องไป เช่น เรื่องที่มีการประชุมเป็นประจำ อีกทั้งตนต้องเดินทางไปพบปะผู้นำต่างประเทศ ในฐานะผู้นำหน้าใหม่ รวมถึงไปแลกเปลี่ยนนโยบาย เพื่อให้ประเทศไทยมีตัวตนบนไปทั่วโลก อีกทั้งมีการเดินหน้าเจรจา FTA ด้วย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ต้องใช้เวลา เพราะรัฐบาลทำงานแค่ 7 เดือนเท่านั้น
ทั้งนี้หากสมาชิกมีข้อเสนอแนะอะไรที่ดี ยินดีรับฟัง และหากมีข้อกล่าวหาอะไรก็ขอหลักฐาน และเหตุผลมา เช่น เรื่องกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตามหลังประเทศผ่านการเลือกตั้งมา เชื่อว่าประเทศไทยมีความก้าวหน้าในระบอบประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น