"ก้าวไกล" เจอป่วนเปิด 33 ผู้สมัครกทม."พิธา"ย้ำชัดไม่จับมือกับพรรคทหารจำแลง

"ก้าวไกล"เปิดตัว33ผู้สมัครส.ส.กทม  " พิธา" ลั่นเลือกตั้งเพื่อเดิมพันการเปลี่ยนแปลงประเทศย้ำชัดไม่จับมือกับพรรคทหารจำแลงอย่างพวกรวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐ

เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2566 ที่สามย่านมิตรทาวน์ พรรคก้าวไกล (ก.ก. ) นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ร่วมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. จำนวน 33 คน โดยนายพิธาปราศรัยว่า ขออภัยประชาชนเนื่องจากวันนี้ไม่สามารถปราศรัยแบบสับๆ หรือตะโกนมากไม่ได้ เนื่องจากตอนนี้เป็นเหยื่อของฝุ่น PM2.5 แพทย์ห้ามใช้เสียงมาก แต่เพราะอยากมาให้กำลังใจให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล และประชาชนที่สนับสนุนพรรค และต้องการแสดงให้เห็นว่าหัวหน้าพรรคคนนี้จะพักเมื่อชนะ ไม่ได้พักเมื่อเหนื่อย

นายพิธา กล่าวว่า มีความภาคภูมิใจมากเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 ชาว กทม.ให้คะแนนเสียงกับพรรคอนาคตใหม่มากกว่า 8 แสนคะแนน มาเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ 4 ปีที่ผ่านมาจากอนาคตใหม่ จนวันนี้เป็นพรรคก้าวไกล ดังนั้น การเลือกตั้งปี 2566 ครั้งนี้คือการเลือกตั้งเพื่อการเดิมพัน เป็นการเลือกตั้งเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องกาเลือกก้าวไกล

สำหรับว่าที่ผู้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 33 เขต ได้แก่ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร เขตธนบรี, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ เขตบางขุนเทียน, นายปิยรัฐ จงเทพ เขตพระโขนง-บางนา, นายพงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ เขตบางพลัด-บางกอกน้อย, นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตร์ เขตจอมทอง, น.ส.แอนศิริ วลัยกนก เขตทุ่งครุ, น.ส.รักชนก ศรีนอก เขตบางบอน, นายธัญธร ธนินวัฒนาธร เขตบางแค, น.ส.ทิสรัตน์ เลาหพล เขตตลิ่งชัน, น.ส.ปวิตรา จิตตกิจ เขตภาษีเจริญ, นายสิริน สงวนสิน เขตทวีวัฒนา, นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ เขตพระนคร, น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ เขตปทุมวัน, นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ เขตยานนาวา

นายภัณฑิล น่วมเจิม เขตคลองเตย, นายกันตภณ ดวงอัมพร เขตดินแดง, นพ.เฉลิมชัย กุลาเลิศ เขตห้วยขวาง, น.ส.ภัสริน รามวงศ์ เขตบางซื่อ, นายธนเดช เพ็งสุข เขตลาดพร้าว, นายชยพล สท้อนดี เขตหลักสี่, นายเอกราช อุดมอำนวย เขตดอนเมือง, น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ เขตสายไหม, นายภูริวรรธก์ ใจสำราญ เขตบางเขน

น.ส.นายิกา ศรีเนียน เขตบึมกุ่ม, น.ส.สิริลภัส กองตระการ เขตบางกะปิ, นายสุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ เขตสวนหลวง, นายวิทวัส ติชะวาณิชย์ เขตคันนายาว, นายณัฐพงศ์ เปรมพูลสวัสดิ์ เขตสะพานสูง, น.ส.พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ เขตคลองสาน, นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ เขตมีนบุรี, นายชุมพล หลักคำ เขตลาดกระบัง, นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ เขตจตุจัก และ นายฉัตรชัย เลี้ยงมงคล เขตหนองจอก

อย่างไรก็ตาม ขณะพรรคก้าวไกล ตั้งเวทีปราศัยหาเสียง ปรากฏว่ามีบุคคล 4 คน เป็นชาย 1 คน สวมหมวกแก็ปและผ้าคลุมลายทหารปกปิดใบหน้า และมีผู้หญิงอีก 3 คน ยืนถือป้ายข้อความต่อต้าน บริเวณใกล้กับเวที โดยมีข้อความ ดังนี้ “ทำได้จริง? นโยบายใกล้กาว”, “ทำธุรกิจยังเจ๊ง EGO สูง+ทุบเมีย จะมาบริหารประเทศ!” , “หยุด! อย่าทำลายชาติ”, “ขี้ขลาดตาขาว หลอกใช้เด็กเป็นเบี้ยเกมการเมือง”

ทั้งนี้ในเวลาต่อมา "ช่อ"น.ส.พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ได้เดินเข้าไลฟ์สดสอบถามความต้องการของกลุ่มบุคคลดังกล่าว และให้อ่านป้ายข้อความที่ถือมา ปรากฏว่า ป้าคนหนึ่งบอกว่า อ่านหนังสือไม่ออก ส่วนผู้หญิงอีกคนอ่านข้อความแบบตะกุกตะกัก

ขณะที่ชายในกลุ่มบอกว่าต้องการมาแสดงออกตามป้ายที่เขียน และช่วยกันเขียนมา และเมื่อ น.ส.พรรณิการ์ ถามว่า ข้อความในป้ายหมายถึงใคร ชายคนดังกล่าวบอกว่าไม่ทราบว่าหมายถึงใคร

ด้าน นายพิธา ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่รู้สึกกังวลที่มีกลุ่มบุคคลชูป้ายไม่เห็นด้วยกับนโยบายก่อนเวทีจะเริ่ม เพราะเป็นพื้นที่สาธารณะ ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงในการแสดงออก แต่ส่วนหนึ่งในระบบแบบประชาธิปไตยคือการพูดคุยกัน วันนี้เป็นเวทีหาเสียงของพรรคก้าวไกลในการมาพูดกับพี่น้องคน กทม. ว่าจะทำให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต โดยก็เชื่อว่าในวันหนึ่ง เขาจะมีเวลาและเวที ที่จะพูดในสิ่งที่เขาต้องการได้อย่างมีวุฒิภาวะแน่นอน

นายพิธา ยังกล่าวถึงผลนิด้าโพลที่ออกมาว่าชาวจ.อุดรธานี เทคะแนนให้พรรคก้าวไกล เป็นอันดับ 2 ว่า พรรคก้าวไกล ไม่หวั่นไหว โดยตั้งใจทำงานต่อเต็มที่ ซึ่งอ่านแล้ว ข้อเท็จจริงของนิด้าโพล เก็บตัวอย่างประมาณ 2,000 ตัวอย่าง ซึ่งเป็นช่วงที่ยังไม่ลงพื้นที่จ.อุดรธานี แต่ตอนที่ลงไปก็เชื่อมั่นในการทำงานของพรรค ว่าจะได้รับความนิยมเพิ่ม เพราะครั้งที่แล้วแพ้ไปเพียง 3,000 คะแนน

“ถือเป็นหลักประกันในการประกอบการตัดสินใจในการทำงานทางการเมืองก็จริง แต่สำหรับผมแล้ว โพลขึ้นไม่หลง โพลลงไม่ท้อ เราทำงานเต็มที่เพื่อพี่น้องประชาชนต่อแน่นอน”

ทั้งนี้ เมื่อถามว่าที่เวทีพรรคเพื่อไทย น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ประกาศไม่จับมือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี การประกาศชัดเจนแบบนี้จะทำให้การกับมือของฝ่ายค้านจับได้มากขึ้นหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า คำตอบของน.พ.ชลน่าน นับว่าเป็นคำตอบที่ใกล้เคียงกับพรรคก้าวไกล

ขณะเดียวกัน ก็ไม่ทำให้จุดยืนของพรรคก้าวไกลหวั่นไหวหรือสับสนแต่อย่างใดว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านหากร่วมกันกับมือเป็นประชาธิปไตยก็จะสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้มากที่สุด เนื่องจากมีชุดนโยบายใกล้เคียงกันและมีความต่อสู้กับความท้าทายในปัจจุบันมากที่สุด พร้อมยืนยัน พรรคก้าวไกลไม่สามารถร่วมมือกับพรรคทหารจำแลงอย่างพวกรวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐได้
 

TAGS: #ก้าวไกล #พิธา #เลือกตั้ง66 #สส.กทม.