"จุลพันธ์" โต้ฝ่ายค้านยันไม่มีงบลงทุนโครงการใหม่จนกว่าพ.ร.บ.งบฯ 67 ประกาศ ลั่น เตรียมเห็น สึนามิการลงทุน ใน 1-2 ปี
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ลุกขึ้นชี้แจงกรณีการใช้งบประมาณที่ทางรัฐบาลเผชิญมาในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะการใช้งบประมาณปี 2566 ไปพลางก่อน เนื่องจากงบประมาณยังไม่ได้รับการเห็นชอบ ซึ่งรัฐบาลได้ใช้งบประมาณไปแล้วไม่ต่ำกว่า 40% เป็นงบประมาณเรื่องเงินเดือนและรายจ่ายประจำ งบประมาณผูกพันในปี 2566 และมีความต่อเนื่องมาถึงปี 2567
โดยยืนยันว่าไม่มีการใช้งบประมาณโครงการลงทุนใหม่แต่อย่างใด ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดที่เผชิญมา จนถึงขณะนี้ไม่มีงบประมาณที่เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลได้กำกับจนกระทั่งงบประมาณปี 2567 ผ่าน และหากประกาศใช้ก็จะมีงบประมาณสำหรับการขับเคลื่อนประเทศให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและของแต่ละกระทรวงทบวงกรมที่กำกับดูแลได้
ขณะเดียวกันนายจุลพันธ์ ยังระบุอีกว่า ตนเป็นห่วงการอภิปรายพอสมควร เนื่องจากใช้คำพูดที่ค่อนข้างแรง ทั้ง"เศรษฐีไหน จะโง่มาลงทุน" ตนต้องชี้แจงว่า แม้จะแสดงข้อห่วงใยในการที่ นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนต่างประเทศ ไปแสวงหาเม็ดเงินลงทุนและพันธมิตร ไปแสดงจุดยืนว่าประเทศไทยเปิดกลับมาสู่ตลาดโลกอีกครั้ง ตนในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง สิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการไปได้รับสัญญาณในทางบวกจากผู้ลงทุนภาคเอกชนนานาชาติ แต่ต้องยอมรับว่ากระบวนการลงทุนลักษณะนี้ เงินแสนล้านไม่มีใครตัดสินใจได้ในวันเดียว กระบวนการหลังจากให้ความสนใจแล้วก็ต้องมีกระบวนการในการติดตามพูดคุย และเจรจาให้เกิดความต่อเนื่อง ซึ่งทางรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีหลายท่านได้เดินทางไปต่างประเทศ และตนได้มีโอกาสไปติดตามภารกิจและสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้เปิดการเจรจาและเปิดการหาหรือไว้ ซึ่งได้รับสัญญาณเชิงบวกมา ซึ่งตนเชื่อว่าอีกไม่นาน
แม้ว่าวันนี้ตัวเลขของการลงทุนสัญญาณเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากประเทศไทยเต็มไปด้วยศักยภาพ ทั้งจุดที่ตั้ง และทรัพยากรทางธรรมชาติ ศักยภาพแรงงาน ซึ่งไทยมีแรงจูงใจ และศักยภาพที่จะไปขาย เพื่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ตนชื่อว่าสามารถใช้คำนี้ได้ว่า "เราจะได้เห็นสึนามิ ของการลงทุนเกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงปี 1- 2 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน" จากการลงทุนของต่างชาติที่จะไหลเข้ามาสร้างงานสร้างเงินสร้างอาชีพและมีการถ่ายโอนความรู้เทคโนโลยี เพื่อที่จะให้คนไทยมีความพร้อมรองรับตลาดโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงไป