เลขา กกต. ตรวจความพร้อมสถานที่รับสมัคร สว. ก่อนเปิดรับสมัครวันแรกพรุ่งนี้ มั่นใจทั่วประเทศมีความพร้อม
จากกรณี คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จะเปิดให้ผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.ในวันที่ 20 พ.ค.นั้น ล่าสุด นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานที่รับสมัคร สว. ที่สำนักงานเขตคันนายาว และสำนักงานเขตบางกะปิ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเขต และผู้ที่ได้รับมอบเป็นผู้อำนวยการเป็นผู้อำนวยการเลือก สว. ให้การต้อนรับ ซึ่งยืนยันถึงความพร้อมสถานที่รับสมัคร ที่กำหนดไว้เป็น 5 จุด จะเริ่มจากจุดตรวจสอบเอกสาร โต๊ะรับสมัคร บันทึกข้อมูล ชำระค่าธรรมเนียม และออกใบรับสมัคร โดยนายแสวง ให้แนวทางสำหรับการรับสมัครว่า ให้ดำเนินการรับสมัครไปก่อน เพราะถือว่าผู้สมัครแต่ละคนรับรองคุณสมบัติของตนเอง เนื่องจากมีการประกาศคุณสมบัติและข้อห้ามในการลงรับสมัคร สว. อย่างชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ในอนาคตหากมีการตรวจสอบหรือร้องเรียนกันเองของผู้สมัครก็ให้ส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา และหากพบว่าขาดคุณสมบัติผู้สมัครก็จะต้องรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังให้ระมัดระวังเรื่องของตัวเลขที่อาจจะมีความคล้ายกัน เช่นเลข 1 กับเลข 7 เลข 6 กับเลข 9 และเลข 8
จากนั้นนายแสวง กล่าวว่า จากการตรวจสอบความพร้อมทั้ง 2 จุด ถือว่ามีความพร้อม ซึ่งรวมถึงทั้งประเทศด้วย ส่วนการป้องกันการล็อบบี้หรือฮั้วของผู้สมัคร ได้เตรียมมาตรการป้องกันไว้อย่างไรนั้น ตรงนี้เป็นเรื่องของการแนะนำตัว ซึ่งตนย้ำว่า กกต.ไม่ได้จำกัดสิทธิผู้สมัครหรือสิทธิประชาชนหรือสิทธิสื่อมวลชน แต่เป็นการไม่ให้หาเสียง ให้ใช้วิธีแนะนำตัวเพื่อให้เกิดความเสมอภาคในการแข่งขัน สุจริตเที่ยงธรรม ดังนั้นจะไปฮั้วหรือแสดงวิสัยทัศน์เสนอนโยบายไม่ได้ โดยผู้สมัครจะเลือกจากประวัติ หรือแบบสว. 3 ที่จะสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ในช่องทางต่างๆ เพื่อให้ผู้สมัครท่านอื่นหรือประชาชนเข้าถึงข้อมูล เพื่อเป็นการป้องกันการฮั้วหรือแลกคะแนน อย่างไรก็ดีกฎหมายออกแบบป้องกันการฮั้วไว้ระดับหนึ่ง คือการเลือกไขว้ แต่อาจไม่เพียงพอ กกต.จึงได้เตรียมความพร้อม ตั้งแต่เริ่มให้ความรู้ ก่อนมีพระราชกฤษฎีกาเลือก สว. จนถึงวันที่มีพระราชกฤษฎีกา กกต.มีการตั้งศูนย์ข่าวส่วนกลาง ในจังหวัด ผู้ตรวจ และชุดหาข่าวของกกต. ซึ่งขอให้เชื่อมั่นได้ แต่หากประชาชนพบว่ามีการทำให้การเลือกไม่สุจริตเที่ยงธรรม มีพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมายให้ส่งมาที่ Applicationตาสับปะรด หรือหากมีการแนะนำตัวที่มากกว่าที่กฎหมายกำหนดจะมีเงินค่าตอบแทนสำหรับการแจ้งเบาะแสด้วย
นายแสวง ยืนยันว่า จะได้ชุดใหม่ 200 คน อย่างแน่นอน เมื่อมาเห็นหน้างานยิ่งมีความมั่นใจ แม้ส่วนตัว ยอมรับว่ากังวลใจนิดๆ แต่เมื่อลงพื้นที่คุยกับคนทำงานจึงมั่นใจ ส่วนสิ่งที่ติดอยู่ในใจคือ เราจะได้สว.ตามที่รัฐธรรมนูญออกแบบไว้หรือไม่ หรือตัวคนเหมาะสมที่จะเป็น สว.หรือไม่ ซึ่งมันไม่ได้อยู่ที่กกต. แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของสว.ว่าเราจะได้สว.แบบไหน แต่ย้ำว่า ได้ 200 คนได้ตามโรดแมปแน่นอน
สำหรับเรื่องร้องเรียนนั้น นายแสวง กล่าวว่า มี 3 ประเภท ประเภทแรกคือเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม หากประชาชนอาจเห็นว่าผู้สมัครคนใดไม่มีคุณสมบัติ สามารถยื่นเรื่องต่อ ผอ.เขตเพื่อยื่นต่อให้ศาลฎีกาพิจารณาลบชื่ออกได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการจำกัดสิทธิ เช่น ไม่ได้เลือกตั้งท้องถิ่น 2 ปีหรือลงสมัครมากกว่า 2 กลุ่มก็ต้องลบชื่อออก และส่งต่อให้ศาลฎีกาพิจารณาให้เสร็จก่อน1 วัน แต่หากไม่เสร็จให้ดำเนินการต่อไป ประเภทที่สองคือ เรื่องร้องระหว่างกระบวนการลงคะแนนเลือก ซึ่งผู้สมัครสามารถทักท้วงการนับคะแนนเพื่อให้กรรมการวินิจฉัยได้ทันที และยังร้องกกต.ได้อีกช่องทางหากไม่พอใจคำวินิจฉัย ซึ่งคำวินิจฉัยของกกต.เป็นที่สิ้นสุด และประเภทที่สามคือ เรื่องร้องเกี่ยวกับการซื้อเสียง การฮั้ว การจ้างคนมาลงสมัคร ซึ่งต้องใช้เวลา ในการพิจารณา อาจไม่แล้วเสร็จตามกระบวนการเลือกแต่ระดับ ซึ่งต้องใช้เวลา เนื่องจากต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่อยากให้สบายใจว่าทั้ง 3 เรื่องจะไม่กระทบกับไทม์ไลน์หรือโรดแมป ในการประกาศให้ได้สว. 200 คน
เลขาธิการ กกต. ยังเชื่อว่าประชาชนตื่นตัวกับการเลือกสว.ครั้งนี้ หลังมีการรณรงค์จากกกต.และกลุ่มอื่นๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าความสนใจที่จะมาลงสมัคร มีเงื่อนไขจำนวนมาก เช่น เกณฑ์อายุ และกลุ่มอาชีพ ที่ต้องมีประสบการณ์ ซึ่งอาจทำให้ผู้สมัครเหลือน้อย แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะยังคงมีผู้สมัครจำนวนมาก และช่วงนี้อาจอย่างชั่งใจ รอการตัดสินใจลงสมัคร ดังนั้นจึงต้องรอดูวันรับสมัคร ซึ่งวันพรุ่งนี้( 20 พ.ค.) จะเป็นวันแรกว่าจะมีผู้สนใจมากแค่ไหน