"โรม” ชี้ “เศรษฐา” ตั้ง “พิชิต” นั่งรมต.มีปัญหาแน่ อาจถึงขั้นพ้นนายกฯได้ งง คน “เพื่อไทย” มีเยอะ ทำไมตั้งคนนี้ มอง ถูกวางยาหรือไม่ เหน็บ นายกฯ มีประสบการณ์ไม่มาก อาจตามไม่ทัน
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เผย กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมวินิจฉัยจะรับคำร้องของ 40 สว. เกี่ยวกับคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของนายพิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ว่า ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้การจะตั้งคนเป็นรัฐมนตรีมีลักษณะคุณสมบัติอยู่ ซึ่งเมื่อตั้งไปแล้วต้องมีการพิจารณาว่าคุณสมบัติมีอะไร หากเป็นคุณสมบัติที่ไม่ได้ชัดแจ้ง เรื่องนี้ก็อาจจะมีการถกเถียงกันได้ แต่ต้องยอมรับอีกว่าเรื่องนี้สังคมก็รับรู้ว่านายพิชิตมีเรื่องของถุงขนม 2 ล้านบาท มีการถูกเพิกถอนใบอนุญาตทนายความ และอาจจะถูกคำพิพากษาจำคุก 6 เดือนด้วยซ้ำ ดังนั้น ในเรื่องของจริยธรรมต่างๆ มีปัญหาแน่นอน
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ฉะนั้น การที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตั้งนายพิชิตก็มีปัญหาแน่นอนว่าสุดท้ายการตั้งก็อาจจะกระทบต่อการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรี และมากไปกว่านั้นคือหากพิจารณาต่อไปเราจะพบว่าการปรึกษาคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเท่าที่ตนได้ฟังข้อเท็จจริงก็ชัดว่ามีการถามในลักษณะที่ไม่ครบถ้วน และทางคณะกฤษฎีกาก็ให้ข่าวเองว่าถามแค่ไหน ตอบแค่นั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่าการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีย่อมจะต้องถูกตรวจสอบได้ และเมื่อถูกตรวจสอบได้ก็จะเกิดประเด็นว่าการตรวจสอบนั้นอาจทำให้นายกรัฐมนตรีมีปัญหา ถึงขนาดที่ว่าสามารถพ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรีได้โดยศาลรัฐธรรมนูญ
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ปัญหาเรื่องนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้น และตนไม่แน่ใจว่าทีมกฎหมายที่ให้คำปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้คำปรึกษากันอย่างไร ทำไมจึงตั้งนายพิชิตเช่นนี้ และต่อให้ไม่มีการไปยื่น ผมก็เชื่อว่ากรณีคุณสมบัติหรือสิ่งที่นายพิชิตเคยทำจะถูกตรวจสอบในสภาฯ โดยฝ่ายค้านแน่นอนว่าการตั้งบุคคลในลักษณะเช่นนี้มีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้น แต่รัฐบาลชุดที่แล้วก็มีการตั้งรัฐมนตรีที่อาจจะมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมต่างๆ ขึ้นมา
”ผมแปลกใจที่คนของเพื่อไทยมีหลายคน แต่ทำไม จึงเลือกที่จะตั้งนายพิชิต ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ผมคิดต่อว่ามีการวางยากันหรือไม่ คงเป็นปัญหาภายในของรัฐบาลที่แสดงให้เห็นถึงความไม่มีเสถียรภาพและสิ่งที่ต้องคิดต่อไปคือหลังจากที่มีการปรับคณะรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีลาออกถึงสามคน และผมคิดว่าเรื่องนี้กระทบต่อทุกภาคส่วนที่สูญเสียความเชื่อมั่น เนื่องจากรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ไร้เสถียรภาพ“ นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีการพยายามฟอกขาว ก่อนจะมีการตั้งนายพิชิตเป็นรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนคิดว่าคงไม่เป็นการฟอกขาว และหากดูจากปฏิกิริยาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ก็ไม่คิดว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาจะไม่ทำตามสั่งซ้ายหันขวาหันของรัฐบาล แต่อาจจะมีกระบวนการบางอย่างที่อาจจะทำให้นายกรัฐมนตรีหลงเชื่อหรือไม่เพื่อที่จะสามารถทำให้ตั้งนายพิชิตได้ โดยที่คำถามต่างๆ อาจจะถามไม่ครบ และคิดว่านายเศรษฐาซึ่งเป็นผู้ที่อาจจะมีประสบการณ์ทางการเมืองไม่มากนัก อาจจะไม่เท่าทันหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องดูกันต่อไป
“ผมคิดว่าวันนี้รัฐบาลควรเป็นตัวอย่างคือการตั้งคนที่มีคุณสมบัติ มีความสามารถ แต่ประเภทที่ตอบแทนการในเรื่องของบุญคุณกันมา เปลี่ยนผลัดกันไปทุก 6-7 เดือน ผมคิดว่าไม่ควรเกิดขึ้น ส่วนนายเศรษฐาจะเป็นคนที่รู้จริงหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง” นายรังสิมันต์ กล่าว