"นฤมล"ย้ำ นโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท/เดือนสอดรับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงหลังฟังเสียงสะท้อนจากการลงพื้นที่ของสส. 200-300 บาทไม่เพียงพอใช้จ่าย ลั่นยังมีสวัสดิการช่วยเหลือ เดินหน้าแก้ปัญหายากจนแบบยั่งยืน
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเเผยว่า นโยบายการเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐเป็น 700 บาทต่อเดือน ของพรรคพลังประชารัฐ โดยในปี 2566 จะมีประชาชนได้รับสิทธิประมาณ 18 ล้านคน คนละ 700 บาทต่อเดือน จะต้องใช้งบประมาณเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ ปีละ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวมีการคำนวนแหล่งที่มาของงบประมาณมาจากที่ใดแล้ว
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า เมือปี 2561 ตนก็เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ดูแลรับผิดชอบสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงนั้น เราอยากจะให้พี่น้องประชาชน ผู้ที่มีรายได้น้อย สามารถที่จะมีเงินประทังชีวิตต่อเดือน สิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐาน เขาสามารถไปซื้อ ข้าวสาร น้ำปลา อาหารแห้ง ได้ ในต่างจังหวัดอยู่ได้โดยไม่ลำบาก แต่ปัจจุบันสภาวะ ทางเศษฐกิจทั่วโลกเผชิญกับสภาวะเงินเฟ้อ ไม่ต่างกับประเทศไทย สินค้ามีราคาที่สูงขึ้นมาก ดั้งนั้นเงิน 200-300 บาทต่อเดือน ก็ไม่เพียงพอ เสียงสะท้อนก็ออกมาจากผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ที่ลงพื้นที่ไปพบปะกับประชาชนต่างก็บอกเงินไม่พอแล้ว
"พรรคพลังประชารัฐให้ความจำเป็นขั้นพื้นฐาน ต้องปรับให้สอดคล้องกับสภาวะกับทางเศรษกิจและปัจจุบัน ให้สู่กับสภาวะเงินเฟ้อได้ และจริงๆในนโยบาย ทั้งหมดไม่ใช่มี แค่ 700 บาท เรายังคงมุ่งหน้าทำการแก้ปัญหา ความยากจนอย่างยั่งยืน หมายความว่าต้องมีการฝึกอบรมให้ 700 บาทเป็นการให้ปลาไปเฉยๆ จะต้องมีการ ให้เบ็ดเขาด้วย แล้วก็สอนวิธีตกปลา"ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ทั้งนี้ ศ.ดร.นฤมล กล่าวด้วยว่า จากนี้พรรคพลังประชารัฐจะมีการแถลงนโยบายออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งคาดว่านโยบายต่อไปที่น่าจะมีการประกาศก็คือ นโยบายที่ดินประชารัฐ