“วิษณุ” รับ น่ากังวลเลือก สว.ระดับจังหวัด-ประเทศ เชื่อ ถ้าล้มมีผลกระทบแน่ แต่ไม่คิดว่ารุนแรงขนาดนั้น ย้ำ สว.ชุดเก่าไม่มีโหวตนายกฯ
นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เผย การเลือก สว.ครั้งนี้ที่มีการร้องเรียนจำนวนมาก มีความเป็นห่วงหรือไม่ ว่า ควรกังวล แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องกังวล เพราะเพิ่งผ่านการเลือกในระดับอำเภอ แต่ถ้าผ่านไปถึงระดับจังหวัดและประเทศ อาจจะน่ากังวลกว่า อย่างที่ทราบกันว่ายังมีความเข้าใจผิด ประชาชนก็เข้าใจคลาดเคลื่อน อาจจะมีการไปตกลงหรือนัดแนะอะไรกัน ซึ่งอาจจะทำให้มีปัญหา แต่มันก็เป็นปัญหาเฉพาะราย ก็เห็นให้สินบนนำจับกันหลายๆ ล้านบาท ถือว่าเป็นความจูงใจกันพอสมควร ระดับอำเภอเราเห็นอยู่ว่ามีปัญหามาก แต่ยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงได้ออกประกาศว่าการเลือก สว.ระดับอำเภอเป็นไปด้วยความราบรื่น ซึ่งเราคาดการณ์อยู่แล้วว่าระดับอำเภอน่าจะเป็นไปด้วยความราบรื่น เพราะมีระดับอำเภอมีผู้สมัครน้อย 20 กลุ่มถือว่าน้อย แต่เมื่อไปถึงระดับจังหวัดหรือระดับประเทศอาจจะมีปัญหา เพราะบางจังหวัดอาจจะไม่มี สว.เลยก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าดูจากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น มองว่าวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะได้ สว.ทั้งหมดหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนตอบไม่ถูก แต่เดาว่าน่าจะได้ หวังว่าน่าจะได้ เพราะมีสำรองอีกตั้ง 100 คน ถ้าผิดถูกก็ไปสอยเอาทีหลังได้ เมื่อถามว่า ถ้ากระบวนการเลือก สว.มันล้ม จะส่งผลเสียหายมากหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวย้อนว่า คุณเป็นฝ่ายที่สมมุติขึ้นมา แต่ถ้ามันจริงอย่างที่คุณสมมุติ มันก็กระทบรุนแรง แต่ตนไม่คิดว่าจะมีผลกระทบรุนแรงขนาดนั้น
เมื่อถามถึงกรณีนายสมชาย แสวงการ สว. ออกมาระบุว่าการเลือก สว.ครั้งนี้โมฆะแน่นอน นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องไปถามนายสมชายเอง มาถามตนทำไม เมื่อถามอีกว่า ระหว่างยังไม่ได้ สว.ชุดใหม่ สว.ชุดเก่ายังมีอำนาจเต็มใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ทุกอย่างเหมือนเดิม ยกเว้นการเลือกนายกฯ อาจจะอีกมาตราหนึ่งที่เกี่ยวกับการพิจารณากฎหมายปฏิรูป ซึ่งได้ล็อคไว้ว่าภายใน 5 ปีเหมือนกัน เมื่อถามย้ำว่า ตามมาตรา 109 ระบุว่า ถ้ายังไม่มี สว.ชุดใหม่ ก็ให้ สว.ชุดเก่าปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวจะหมายถึงการเลือกนายกฯด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่ ไม่รวม
นายวิษณุ กล่าวถึง การชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่า ตนได้ตรวจดูแล้ว และได้ส่งไปให้หน่วยงานต่างๆ ได้ดูด้วย เพราะมีหลายชั้น ตั้งแต่ยกร่าง ตรวจดู และสอบทาน รวมแล้ว 3 ชั้น ก่อนที่จะส่งขึ้นไป โดยนายกฯระบุว่าส่งไปศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่วันศุกร์ที่ 7 มิ.ย. ซึ่งตนเป็นแค่คนตรวจเท่านั้น ไม่ได้ร่างเอง ทีมกฎหมายนายกฯเขาเป็นฝ่ายร่าง ตนถือเป็นคนหนึ่งที่ช่วยตรวจ ที่ผ่านมาก็มีการประชุมกัน ถ้าเห็นว่ามีอะไรที่ควรจะปรับปรุงก็ปรับกันไป บางทีตนก็ยอมเขา บางทีเขาก็ยอมตน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือว่าสมบูรณ์แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สมบูรณ์หรือไม่ ตนไม่รู้ เพราะทำได้แค่นั้น เมื่อถามว่า เท่าที่ดูศาลรัฐธรรมนูญจะขอคำชี้แจงเพิ่มหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่ศาล ศาลสามารถทำได้ เช่น ศาลอาจจะบอกว่าที่คุณเขียนมาแบบนี้ ขอเอกสารหลักฐานมาดูหน่อย ปกติเราจะส่งเอกสารแนบไปอยู่แล้ว แต่บางทีเราอาจจะคิดว่าของแบบนี้ใครๆ ก็รู้ ซึ่งศาลอาจจะไม่รู้ก็ได้
เมื่อถามว่า สิ่งที่ชี้แจงไปถือว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย นายวิษณุ กล่าวว่า ทุกข้อ ซึ่งที่ผ่านมาทำตามกฎหมายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำตามขั้นตอนมาตลอด เคยทำกับรัฐมนตรีร้อยคนในอดีตอย่างไรก็ทำแบบนั้น แต่ครั้งนี้ยอมรับว่ามีเข้มงวดเป็นพิเศษ เมื่อถามอีกว่า มีข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายใหม่หรือไม่ ที่ปรากฏอยู่ในสื่อขณะนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังเปิดเผยอะไรไม่ได้ อยู่ในคำชี้แจงที่ส่งไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คำชี้แจงที่ส่งไป เป็นคำชี้แจงที่ฝ่ายกฎหมายให้คำแนะนำมาใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เขาร่างเสนอขึ้นมา เพราะเขาเป็นคนทำ นายกฯไม่ได้เป็นคนทำ ก็เอามาดูกัน ถ้าเห็นมันซับซ้อนวกวนก็ปรับปรุงแก้ไข ตัดออกบ้าง อะไรบ้าง เพิ่มบ้าง เมื่อถามว่า คำชี้แจงรวมเป็นฉบับเดียว หรือแยก ทั้งในส่วนของนายกฯ และคณะกรรมการกฤษฎีกา นายวิษณุ กล่าวว่า รวมเป็นฉบับเดียวคือ ฉบับของนายกฯ ส่วนเอกสารมีกี่หน้ากี่ลัง ตนตอบไม่ถูก จำไม่ได้ แต่เยอะพอสมควร