เลือก สว.กทม.คึกคัก “ช่อ” โผล่สังเกตการณ์ ปูดแจกสะพัด 2-3 หมื่นบาทต่อหัว

เลือก สว.กทม.คึกคัก “ช่อ” โผล่สังเกตการณ์ ปูดแจกสะพัด 2-3 หมื่นบาทต่อหัว
เลือก สว.กทม.คึกคัก ผู้สมัครนับพันรายงานตัวตั้งแต่เช้า “ช่อ” โผล่สังเกตการณ์ เหตุเป็นสมรภูมิที่สำคัญที่สุด ปูดแจกสะพัด 2-3 หมื่นบาทต่อหัว 

ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่  ซึ่งเป็นสถานที่จัดเลือก สว.ระดับจังหวัด กรุงเทพมหานคร เป็นไปอย่างคึกคัก บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้สมัคร สว.ที่ผ่านเข้ารอบระดับอำเภอจำนวนมาก เดินทางมารอที่บริเวณด้านหน้าตึกวายุภักษ์ เพื่อรอลงทะเบียนรายงานตัวเข้าสู่กระบวนการเลือกสว.ระดับจังหวัด ในเวลา 08.00-09.00 น. อาทิ นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีต สว.กทม.,นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต สส.กทม.,นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตจำรวจสันติบาล ,รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง ม.เกริก ขณะเดียวกันนางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานกรรมการระดับจังหวัด การเลือกตั้ง สว. กรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยด้วยด้วย

โดยผู้ที่จะเข้าไปในสถานที่เลือกต้องผ่านจุดคัดกรอง ตรวจค้นสัมภาระ และสิ่งผิดกฎหมายบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้กำชับกับผู้สมัคร สว.ทุกคน ให้ปิดเครื่องมือสื่อสารและกล้องบันทึกภาพ อีกทั้งจะต้องมอบเครื่องมือสื่อสารให้กับกรรมการประจำที่เลือก 

จากนั้นเมื่อถึงเวลา เจ้าหน้าที่ให้ผู้สมัครได้เดินทางเข้าไปยังห้องเลือกตามกลุ่มอาชีพจำนวน 20 กลุ่ม โดยมีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประกาศกฎกติกา เอกสารที่ต้องใช้ และเน้นย้ำเวลาลงทะเบียนให้กับผู้สมัคร ทั้งนี้ มีผู้สมัครรายหนึ่ง ก่อนที่จะเข้าไปในภายโรงแรม ได้นำสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่กายขึ้นมาไหว้ พร้อมกับยกมือท่วมหัว และพูดออกมาว่า ขอให้ได้เป็น สว. จะทำเพื่อบ้านเมือง ขณะเดียวกันไม่อนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์เข้าไปด้านในห้องเลือก แต่จะมีการเปิดประตูไว้ตลอด ซึ่งผู้สังเกตการณ์สามารถอยู่ได้หลัง Yellow Line

สำหรับกรุงเทพมหานคร มีผู้สมัคร สว.ที่ผ่านเข้ารอบเลือกระดับจังหวัดทั้งสิ้น 1,634 คน โดยรอบนี้จะถูกคัดให้เหลือ จังหวัดละ 40 คนจาก 20 กลุ่ม กลุ่มละ 2 คนรวมเป็น 3,080 คนเพื่อเข้าสู่การเลือกระดับประเทศ

นอกจากนี้ในเวลา 07.30 น.นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ได้เดินทางมาร่วมเฝ้าสังเกตการณ์คักเลือก สว.ระดับจังหวัดในครั้งนี้ด้วย  โดยนาวสาวพรรณิการ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาสังเกตการเลือก สว.ระดับจังหวัด ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นคนกรุงเทพฯ อย่างเดียว แต่เพราะกรุงเทพฯ เป็นสมรภูมิที่สำคัญที่สุด มีการแข่งขันสูงที่สุด เยอะที่สุด เนื่องจากมี 50 เขต หมายความว่าผู้ที่จะตกรอบในการคัดเลือกระดับจังหวัดมีเยอะมาก วันนี้อาจจะได้เห็นบุคคลที่เราเห็นอยากเป็น สว.มากตกรอบ ทั้งนี้ตนอยากให้ผู้สมัครที่เราเห็นเป็น สว.ของประชาชนได้จริง ๆ ลุ้นผ่านเข้ารอบระดับจังหวังให้ได้ เพราะเชื่อว่ารอบจังหวัดเป็นรอบที่ยากที่สุด ผู้สมัครที่มีโปรไฟล์ดี  มีความสามารถโดดเด่น หากผ่านเข้ารอบนี้ไปได้ เชื่อว่าก็จะสามารถฝ่าฟันจนเป็น สว.ได้ ส่วนหลายอำเภอที่มีการนับคะแนนใหม่ เป็นเรื่องปกติของการเลือกใน 900 กว่าอำเภอ สิ่งที่เรากังวลคือในช่วง 3-4 วันมานี้ มีข่าวแพร่สะพัดว่ามีการจ่ายเงินหลัก 20,000-30,000 บาทให้กับผู้สมัคร ถือเป็นพายุหมุนสำหรับ สว. ขอย้ำว่าผู้ที่จ่ายเงินให้ไปเลือกคนอื่น หรือให้ไปเลือกใคร มีโทษจำคุก ส่วนผู้ที่แจ้งเบาะแสจะมีรางวัลนำจับหลักแสนบาท ซึ่งตอนเลือก สส.ก็มีรางวัลนำจับแบบนี้ แต่ไม่มีใครได้รับรางวัล เพราะกลัวอิทธิพล ตนเองจึงอยากให้ Active Citizen จับตาการเลือก สว.ให้ได้มากที่สุด เชื่อว่าจากรอบจังหวัดไปสู่ระดับประเทศ ค่าตัวก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น 

นางสาวพรรณิการ์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวว่ามีผู้สมัคร สว.เข้าไปรอในระดับประเทศว่า ยอมรับว่ามีอยู่จริง และบางส่วนเป็นคนที่ตนเองรู้จักด้วย แต่ไม่สามารถพูดชื่อได้ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเขามีตั๋ว แต่เป็นเพราะช่องโหว่ของระบบที่ให้แต่ละจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดเล็ก ๆ ไม่มีการแข่งขันเลย ขอแค่มีคนโหวต 1 คะแนนก็เข้าไปรอระดับประเทศแล้ว ขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯ แข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ  ที่ผ่านมาในรอบอำเภอ หลายคนพูดออกมาชัดเจนว่า ให้น้องไม่ได้ เพราะของพี่มีโพยแล้ว เราจึงเห็นได้ชัดว่าเป็นลักษณะการจัดตั้งจากกลุ่มการเมืองใหญ่มีอยู่จริง แต่ไม่เป็นไร เราทำอย่างดีที่สุดให้ผู้สมัครที่เป็นตัวแทนของประชาชนเข้าไปเจือจาง อย่างไรก็ตามรู้สึกชื่นใจที่เห็นประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม 

ส่วนกรณีที่ข้อมูลผู้สมัคร สว.ระดับอำเภอที่หลุดออกมา นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ไม่ควรยอมรับ จริงๆ แล้วมีข้อมูลผู้สมัครหลุดลอดออกมาตลอด และหากมีเส้นสายดีพอกับข้าราชการก็จะได้มาซึ่งข้อมูลอย่างนี้ ตนเองคิดว่ากฎหมาย PDPA อย่าทำให้กลายเป็นกระดาษทิชชูทิ้งลงถังขยะ ตนเองคิดว่าเป็นเรื่องปกตินานแล้ว คนที่เข้าถึงเส้นสาย เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้มากกว่าประชาชนทั่วไป และนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ ข้อมูลผู้สมัคร สว.ตนเองพูดได้เลยว่าเป็นขุมทรัพย์ จึงคิดว่าเป็นปัญหาสำคัญ เนื่องจากเป็นระบบปิด

ส่วนกรณีวันที่  18 มิถุนายนนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดพิจารณาคดีข้อกฎหมาย 4 มาตรา ของพ.ร.ป.ที่มาสว.ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น แกนนำคณะก้าวหน้าก กล่าวว่า คงไม่มีความเสี่ยงมากถึงขั้นล้มกระบวนการ คิดว่าศาลรัฐธรรมนูญมีการชั่งน้ำหนักมาเป็นอย่างดี ว่าจะมีความเสียหายเกิดขึ้นเยอะขนาดไหน แม้ว่ากฎระเบียบจะขัดต่อรัฐธรรมนูญจริงก็สามารถตัดสินในรูปแบบอื่นได้ และอาจจะไม่ได้ทำให้การเลือก สว.ระดับอำเภอ และระดับจังหวัดเป็นโมฆะ


 

TAGS: #เลือกสว #ช่อพรรณิการ์ #กทม #สว67