ศาลฎีกา ตัดสินยกฟ้อง “ชาญชัย” คดีหมิ่นคิงเพาเวอร์ รวม 8 คดี ชี้ เป็นการแถลงข่าวด้วยข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง 

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดนครนายก พร้อมด้วย น.ส. มรกต อิสระเสนารักษ์ และทีมทนาย ได้เดินทางไปที่ศาลอาญา เพื่อฟังคำตัดสินคดีที่บริษัทคิงเพาเวอร์ ฟ้องนายชาญชัย ในคดีหมิ่นประมาทในหลายกรณีนั้น ในวันนี้ศาลฎีกาได้มีคำตัดสินถึงที่สุดแล้ว โดยมีข้อความตอนหนึ่งว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การแถลงข่าวของนายชาญชัย เป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง โดยสาระสำคัญในการแถลงข่าวเป็นการบอกกล่าวถึงข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่ในการรักษาผลประโยชน์ของบริษัท ทอท. และประเทศชาติ ทั้งการแถลงข่าวของนายชาญชัยให้สื่อมวลชนและประชาชนรับทราบยังเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการติดตามตรวจสอบ เพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการให้ถูกต้อง อันเป็นการปกปักรักษาผลประโยชน์ของบริษัท ทอท. และประเทศชาติอีกทางหนึ่ง การแถลงข่าวของจำเลย จึงเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ทั้งเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(3) การแถลงข่าวของนายชาญชัยทั้ง 5 ประการ จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น 

ส่วนกรณีที่ศาลได้พิจารณานั้น ประกอบด้วย  1. กรณีที่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) ขยายระยะเวลาสัญญาให้ บริษัทคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีจำกัด และ คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ เป็นไปโดยไม่ชอบ เพราะโครงการมีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท ต้องเสนอ ครม. อนุมัติเท่านั้น (ผิด พ.ร.บ.ร่วมทุน ปี 2535) 2. เรื่อง ขายสินค้าปลอดอากร โดยไม่ได้นำสินค้าออกไปยังต่างประเทศ ทั้งที่การขายสินค้าปลอดอากรต้องขายโดยส่งออกไปต่างประเทศเท่านั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นายชาญชัย ในฐานะคณะอนุกรรมาธิการฯ รับฟังข้อมูลจากผู้แทนกรมศุลกากรว่า บริษัทคิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ขายสินค้าปลอดอากรที่รางน้ำ แล้วให้ผู้ซื้อกลับมารับได้ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า ถือว่าไม่ถูกต้อง และต้องเอาผิดกับบริษัทคิงเพาเวอร์ ฯ อันเป็นการทราบจากการปฏิบัติหน้าที่ของนายชาญชัย ทำให้เชื่อโดยสุจริตว่า เป็นเรื่องที่เป็นความจริง 

3. ศาลฎีกา รับฟังว่า จากเหตุข้อ 1. การต่อสัญญาโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.ร่วมทุน ปี 2535 2. การขายสินค้าปลอดอากรโดยไม่เชื่อม POS ส่งผลให้ไม่สามารถตรวจสอบยอดขายได้ ส่งผลกระทบในการเรียกเก็บผลตอบแทนของ ทอท. ในอัตรา 15% จากยอดขาย อาจได้ไม่ครบจำนวน และการขายสินค้าที่รางน้ำแล้วไปส่งมอบให้ลูกค้าที่ท่าอากาศยานฯ ทอท. ไม่ได้รับส่วนแบ่ง 15% เต็มจำนวน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อ ทอท. และการขายสินค้าโดยไม่นำออกต่างประเทศ แต่นำสินค้าเข้ามาในประเทศ เป็นการหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรตามกฎหมาย เหตุการณ์ทั้งหมด ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อ ทอท. และประเทศ