"ชัยวุฒิ" แย้ม พลังประชารัฐ กินข้าวกับทุกพรรค เว้นฝ่ายค้าน ย้ำเป้าส.ส. 150 ที่นั่ง ชี้‘บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่’ ฝั่งเดียวกัน ส.ส.แข่งพื้นที่ เรื่องปกติ

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างพรรคพลังประชารัฐ นำโดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค และพรรคภูมิใจไทย นําโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ว่า เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าพรรคใหญ่ พรรคกลาง พรรคเล็ก ก็กินข้าวกันประจำอยู่แล้ว ส.ส.และนักการเมือง เข้าออกกันเป็นประจำ แต่วงทานข้าวเมื่อ 22 มี.ค. อาจเป็นประเด็นเพราะนายอนุทินมา และเขาเป็นพรรคใหญ่ ก็พูดคุยกันเรื่องการเมือง คุยกันประจำ แต่ยืนยันว่ามากินข้าวกันทุกพรรค ยกเว้นพรรคฝ่ายค้าน เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ถามว่าในวงกินข้าวมีการพูดถึงการจับมือเพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้คุยขนาดนั้น เพียงแต่บอกว่าเรื่องนี้ต้องรอหลังเลือกตั้งว่าใครจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ ค่อยมาดูกัน

ถามว่าถือเป็นการส่งสัญญาณจับมือกันในอนาคตหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนว่าสัญญาณชัดอยู่แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็อยากทำงานร่วมกันต่อ เพราะทํางานราบรื่นดี ประสานงานกันได้ด้วยดี ก็ไม่อยากเปลี่ยน

ถามว่าการจับมือในอนาคต จะมีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ด้วยหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ความจริงพรรครวมไทยสร้างชาติ ถือเป็นพรรครัฐบาล ก็อยู่ด้วยกันนั่นแหละ

“พรรครวมไทยสร้างชาติจะไปจับมือกับใคร ถ้าไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐ ความจริงทุกพรรคจับมือกันได้หมด ถ้านโยบายหรือแนวคิดตรงกัน แต่สุดท้าย อยู่ที่การเลือกตั้ง เราต้องเอาความจริงมาคุยกัน พรรคร่วมรัฐบาลถ้าจะทำงานกันต่อ ต้องอยู่ด้วยกันนั่นแหละ มันไม่มีใครได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ต้องอยู่ด้วยกันหมดแหละ”

ถามว่ามีข่าวว่าพรรคตั้งเป้าจะได้ 70 เสียง เป็นไปตามนั้นหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตัวเลข 70 ที่ออกมาเป็นการคาดการณ์ของบางคน ซึ่งบางคนประเมิน 100 บางคนประเมิน 70 บางคนประเมิน 40 บางคนก็ประเมิน 150 ซึ่งเราอาจถึง 150 เสียงก็ได้ เพราะมีผู้สมัครเกรดเอ ตั้งเป้าไว้ 150 เสียง

“เป้า 150 ยังอยู่ ที่เราเคยพูดมาตลอดเพราะเรามี ส.ส.เกรดเอ 150 แต่ยอมรับว่าไม่คิดว่าจะชนะทุกคน มันอาจมีพลาดบ้าง ส่วนปาร์ตี้ลิสต์เท่าไหร่ ส.ส.เขตเท่าไหร่ ถือเป็นความลับ ” นายชัยวุฒิ กล่าว

ถามว่าที่กินข้าวกันบ่อย อาจจะแถลงข่าวจับมือกัน เป็นไปได้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เขาไม่ทำกัน แถลงไม่ได้ มันเป็นกติกาประชาธิปไตย เลือกตั้งก็หาเสียงแข่งกันหมด ไม่มีจับมือกัน บางจังหวัดเราแข่งกับภูมิใจไทย บางจังหวัดก็แข่งกับรวมไทยสร้างชาติ หรือบางจังหวัดก็แข่งกับเพื่อไทย ไม่มีมาจับมือกัน บางทีพรรคจับมือกัน แต่ผู้สมัครแข่งกันก็มี ฉะนั้นบางพื้นที่ไม่เกี่ยวกับพรรค ในสนามยังสู้กันเต็มที่

ถามว่าการกินข้าวก็มีนัยยะทางการเมืองอยู่แล้ว นายชัยวุฒิ กล่าวว่า มองอย่างนั้นได้ เราพร้อมทำงานร่วมกัน

ถามว่าเหมือนนายอนุทิน จะเหยียบเรือสองแคม ไปหาทั้งลุงป้อมและลุงตู่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า “ทั้งลุงป้อม ลุงตู่ ก็อยู่ฝั่งเดียวกัน”เมื่อถามว่าทำไมไม่อยู่ด้วยกัน จะแยกกันทําไมให้เหนื่อย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า อันนี้ตนไม่ทราบ

ถามว่าตอนนี้ปิดประตูไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยแล้วใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า สมัยก่อนก็อยู่พรรคเดียวกัน แล้วแยกออกมากันตั้งเยอะแยะ

เมื่อถามว่ามั่นใจว่าพรรคเพื่อไทย จะเป็นฝ่ายค้านต่อใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ อยู่ที่ประชาชน อยู่ที่ผลการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ การให้สัมภาษณ์ของนายชัยวุฒิ ดังกล่าว สืบเนื่องจากวงข้าวกลางวันระหว่าง พปชร. กับ ภูมิใจไทย เมื่อ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา "โดยรายงานข่าวระบุว่า บิ๊กป้อม-อนุทิน" จับขั้วรัฐบาลบนโต๊ะอาหาร ใครชนะเอานายกฯไป "อนุทิน" ยิ้มบอก "ถ้าอาเอา ให้อาก่อน" ด้านประวิตรทุบโต๊ะ ปิดทางนายกฯ 25 เสียง 

โดยเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่ออวยพรและมอบของขวัญเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อช่วงเช้าวันนี้เสร็จแล้ว จากนั้นในช่วงเที่ยงวันเดียวกัน นายอนุทิน ได้พาแกนนำพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรค และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.อุทัยธานี รองหัวหน้าพรรค ไปรับประทานอาหารกลางวันกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5  จังหวัด โดยมีแกนนำพรรค พปชร. ร่วมโต๊ะอาหารด้วย อาทิ นายสันติ  พร้อมพัฒน์ , นายชัยวุฒิ ธนาคามานุสรณ์ , นายวิรัช รัตนเศรษฐ , นายรงค์ บุญสวยขวัญ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช , นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค โดยใช้เวลารับประทานอาหารและพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง   

มีรายงานว่า เนื้อหาบทสนทนาส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการจับมือกันตั้งรัฐบาล มีการคำนวณตัวเลขที่แต่ละพรรคจะได้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยคาดว่า พปชร.จะได้ 70 ที่นั่ง ภท.จะได้ 70 ที่นั่ง เป็น 140 ที่นั่ง บวกกับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะได้เกิน 203 ที่นั่ง จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และไม่ใช่เสียงข้างน้อย เพราะมีเสียงของ ส.ว.ด้วยส่วนหนึ่ง 

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประวิตรได้ระบุว่า เรื่องการเป็นนายกฯ “ถ้าคะแนนใครชนะเอาไปเลย ส่วนพรรคที่ได้ 25-30-40 เสียง จะมาเอาไม่ให้ คนที่ได้คือเรากับหนู (นายอนุทิน)” ทำให้นายอนุทินที่ฟังอยู่ยิ้มออกมา ก่อนพูดทำนองว่า “ถ้าอาจะเอา เอาไปก่อน”  

นอกจากนี้ วงสนทนายังมีการประเมินเสียงของพรรคเพื่อไทย (พท.) จะได้ในครั้งนี้ไม่เกิน 170 ที่นั่ง 

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการสนทนาครั้งนี้เป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตรที่อารมณ์ดีในช่วงระหว่างคำนวณตัวเลขกัน ทั้งนี้ ในวงสนทนายังไม่ได้พูดไปถึงการแบ่งกระทรวง เพราะเป็นเรื่องอนาคต แต่โฟกัสไปที่ผลการเลือกตั้งก่อน และมีรายงานอีกว่า นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ประสานขอมาร่วมรับประทานอาหารกับ พล.อ.ประวิตรในโอกาสต่อไปด้วย