3 แคนดิเดต ประธานวุฒิ "มงคล-นันทนา-หมอเปรม" แข่งโชว์วิสัยทัศน์ 

3 แคนดิเดต ประธานวุฒิ
3 แคนดิเดตประธานวุฒิสภา แข่งโชว์วิสัยทัศน์ ด้านหมอเปรม ขอเป็นประธานสุขภาพดี ปวดฉี่อั้นได้ ส่วน นันทนา เสนอ 5 ส. เน้นยึดโยงประชาชน ด้าน "มงคล" บอกผมมาจากก้อนดิน เข้าใจความยากจน

การประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1)  เพื่อให้ที่ประชุมดำเนินการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา จากนั้น นส.นภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา ได้ประกาศต่อที่ประชุม ถึงขั้นตอนการโหวตเลือกตำแหน่งประธาน และรองประธานตามลำดับ 

โดยการเสนอชื่อผู้เข้าชิงประธานและรองประธานวุฒิสภานั้น พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว. เสนอ นายมงคล สุระสัจจะ  นายเศรณี อนิลบล สว. เสนอ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. และ นายนรเศษรฐ์ ปรัชญากร เสนอ รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส และในประชุมมีมติให้ผู้ที่ถูกเสนอชื่อทั้ง 3 คน สามารถแสดงวิสัยทัศน์คนละ 5 นาที โดย นพ.เปรมศักดิ์ เป็นคนที่ 1 รศ.ดร.นันทนา เป็นคนที่ 2 และนายมงคล คนที่ 3 

นพ.เปรมศักดิ์ ได้ลุกขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ว่า ตนมุ่งมั่นอาสาแก้ไขภาพลักษณ์ของวุฒิสภา นี่เป็นสภาสูง เป็นสภาที่ทรงเกียรติ ถ้าเรากลัดกระดุมเสื้อเม็ดแรกผิดก็จะผิดไปทั้งหมด ดังนั้น สว. ต้องเป็นอิสระ เป็นกลาง ไม่ถูกครอบงำ ไม่ว่าจะพรรคฝ่ายรัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้าน เป็นกลาง-เป็นอิสระ เราได้รับความชื่นชมจากประชาชน แต่ถ้าเลือกอีกด้านก็จะถูกตราหน้าว่าสภาใบสั่ง สภาโหวต สภาหวยล็อก สภาล็อกโหวต 

“กลไกสำคัญของวุฒิสภาคือการกลั่นกรองกฎหมายจากสภาสภาผู้แทนราษฎร นี่คือการตรวจสอบ-ควบคุม ฝ่ายบริหารโดยใช้กฎหมายที่มาจากผู้แทนราษฎร ไม่มีการชี้นำ ไม่ว่าจากพรรคการเมืองใด ประเด็นที่สอง องค์กรอิสระต้องไม่มีใบสั่งว่ามาจากบ้านไหน หรือว่ามาจากผู้ยิ่งใหญ่คนใด องค์กรอิสระจะไร้ความหมาย เกิดปัญหาการยอมรับของประชาชนอย่างที่ผ่านมา ประเด็นที่สาม การตั้งกระทู้สดเป็นอาวุธสำคัญของสว. ในการควบคุมการบริหารของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ต้องตอบกระทู้สดด้วยตนเอง ไม่ใช่มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการหรือให้รัฐมนตรีช่วยมาตอบ ต้องยืนยันศักดิ์ศรีของวุฒิสภา ดำรงไว้ในการควบคุมรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ“

นพ.เปรมศักดิ์ ย้ำว่า ประธานวุฒิสภา จะทำได้ต้องมีสุขภาพที่ดี หลายครั้งในการประชุมสภา ประธานปวดปัสสาวะและให้รองประธานปฎิบัติหน้าที่แทน เป็นอันว่าต้องปิดประชุมกระทันหัน เพราะประธานปวดปัสสาวะ ห้ามไม่ได้รออีก 3 วันถึงประชุมใหม่ ”บางคนเก่ง แต่เวลาผ่านไป สังขารไม่เที่ยง เรื่องนี้จริงจังถ้าไม่ไหวอย่าฝืน อย่ามองว่าผู้สมัครคนอื่นเป็นไม้ประดับ เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ประชาชนมองทั่วประเทศและคาดหวัง”

ด้าน รศ.ดร.นันทนา กล่าวว่า ภาพลักษณ์วุฒิสภาประชาชนไม่ไว้วางใจและไม่ศรัทธา เราจะฟื้นฟูภาพลักษณ์ของ สว.ยุคใหม่ ให้ประชาชนทั้งประเทศจะรู้สึกว่าเป็นเจ้าของ สว. เราต้องยึดโยงกับประชาชนที่จ่ายภาษีเป็นเงินเดือนของเราด้วยแนวทาง 5 ส. สัมพันธ์ สื่อสาร สร้างสรรค์ สมดุลย์ สากล 

- สัมพันธ์ ต้องยึดโยงกับประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม สร้างความรู้สึกผูกพันเป็นเจ้าของแบะสามารถฟังการประชุมสภาได้ ทุกข้อร้องเรียนจะนำไปสู่การแก้ไข เป็นวุฒิสภาเชิงรุก

- สื่อสารการทำงานของ สว. ผ่านถ่ายทอดสดการประชุมสภา และการประชุมกรรมาธิการทุกคณะ จัดแถลงผลการทำงานและตอบทุกคถามของสื่อมวลชน ยึดหลัก สว. รู้อะไรประชาชนรู้อย่างนั้น

- สร้างสรรค์ โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยใช้เวทีถกเถียงประเด็นปัญหาสังคม สะท้อนปัญหาและต้องได้ข้อยุติ มีอำนาจในการเรียกเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองทุกระดับ ตั้งแต่หัวหน้ารัฐบาลมาให้ปากคำ ตอบกระทู้ โดยให้ความเคารพต่อสถาบัน และไม่เบี่ยงหลบเลี่ยงเช่นที่ผ่านมา

- สมดุลย์ เปิดกว้างให้กับทุกศาสนา ความหลากหลายทางเพศ ทุกเชื้อชาติโดยไม่กีดกันแบ่งแยก สภาคือพื้นที่แห่งความเท่าเทียมกัน ทุกคนมีส่วนร่วมกับสภา 

- สากล องค์กรระดับประเทศต้องมีระเบียบเป็นประชาธิปไตย ตามมาตรฐานสากล เป็นแบบอย่างประเทศในอาเซียน ทำให้ประเทศไทยยืนอย่างสง่างามบนเวทีโลก

รศ.ดร.นันทนา ย้ำว่า การตัดสินใจของสมาชิกจะเป็นการชี้อนาคตของวุฒิสภา เป็นตำนานในการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ให้ทุกพื้นที่ของรัฐสภาเป็นการเปลี่ยนแปลง 5 ปี จะไม่สูญเปล่า แต่จะเป็นสภาแห่งความหวัง สภาความศรัทธา มาร่วมทำให้วุฒิสภายุคใหม่เป็นสภาของประชาชน เป็นหนึ่งในเสาหลักประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

สำหรับ นายมงคล ได้แสดงวิสัยทัศน์โดยขอบคุณสมาชิกที่เสนอชื่อตน นับตั้งแต่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการกระทรวงมหาดไทยในตำแหน่งปลัดอำเภอ ตนเองสำนึกว่าแผ่นดินนี้ได้ให้โอกาสมากมาย จึงตั้งปณิธานไว้อย่างแน่วแน่ว่าจะอุทิศชีวิตและปฎิบัติหน้าที่ตอบแทนคุณแผ่นดินรับใช้ประชาชน รักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยยึดมั่นมาตลอดว่าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ซึ่งการทำงานของวุฒิสภาโดยมีประชาชนเป็นเป้าหมายอย่างตรงไปตรงมาจะนำไปสู่สิ่งนั้นได้ จึงอยากเห็นสังคมไทยและคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน เห็นต่างได้แต่ต้องไม่สร้างความแตกแยก เราจะเริ่มต้นจากความเป็นหนึ่งเดียวของวุฒิสภา

“ชีวิตผมมาจากก้อนดินก้อนทราย เป็นเด็กวัดเรียนอาชีวะ จึงเข้าใจความยากจนข้นแค้น ความเป็นคนไม่มีเส้นไม่มีสาย ผมเติบโตมาในระบบราชการด้วยการทำงานอย่างหนัก เต็มความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ในการประสานงานกับพี่น้องประชาชน คลุกคลีกับพี่น้องประชาชนทั้งในชนบทตลอดชีวิต เกษียณอายุราชการก็ไปทำไร่ในชนบท“

TAGS: #ประธานวุฒิ #มงคล #นันทนา #หมอเปรม