"เศรษฐา"ยัน ไม่ปรับครม.เดือนนี้ รับรทสช.ส่งชื่อ "เอกนัฎ" เรียบร้อย เผยไม่มีแผนสำรองรองรับคำตัดสินของศาลรธน.พรุ่งนี้ ยันไม่ได้คิดเรื่องยุบสภา ย้ำวางแผนงานถึงสิ้นเดือน เพราะต้องทำหน้าที่นายกฯ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เผยหลังเป็นประธานการประชุมครม. โดยปฏิเสธว่าในการหารือระหว่างนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผานมาไม่ได้มีการพูดถึงการปรับคณะรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ได้ส่งเรื่องปรับ ครม.ในส่วนพรรคมาให้นายกรัฐมนตรีแล้วหรือยัง นายกรัฐมนตรีกล่าวยอมรับว่ารวมไทยสร้างชาติได้ส่งหนังสือมาเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างที่ตนได้บอกไปว่าเดือนนี้มีเรื่องเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่สื่อให้ความสนใจในวันที่ 14 ส.ค. นี้ ดังนั้นถ้าตนจะปรับ ครม. อะไรก่อน ส่วนตัวคิดว่าความเหมาะสมไม่มี

นายกฯ กล่าวว่า  ในที่ประชุมครม.ไม่มีการพูดคุย เรื่องการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้(14 ส.ค.) และตั้งแต่วันที่ได้ส่งคำแถลงปิดคดีไปก็ไม่ได้พูดคุยกับนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีอีก ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และในวันพรุ่งนี้จะมอบให้นายแพทย์พรพรหมมินทร์ เลิศสุรีย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี  เดินทางไปฟังแทน โดยในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตนมีภารกิจงานที่ทำเนียบรัฐบาลตลอดทั้งวัน โดยไม่ได้มีการตั้งวอรูมแต่อย่างใด 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จะมีการติดตามรับฟังการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่เริ่มเลยหรือไม่ ว่า ตนมีประชุมภายในกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินในทำเนียบ ซึ่งทีมงานตนคงเข้ามาแจ้งเป็นระยะๆอยู่แล้ว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง  กรณีหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้วไม่ได้ไปต่อได้คิดเรื่องแผนสำรองไว้หรือไม่ว่า ไม่ได้คิดเรื่องแผนสำรอง 

ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า หากเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ ก็สามารถยุบสภาได้ ว่า ไม่ได้คิดเรื่องเรื่องนี้ ให้มันเกิดขึ้นก่อน แล้วค่อยว่ากัน 

ทั้งนี้ ดูเหมือนนายกรัฐมนตรี มีความมั่นใจพอสมควรเกี่ยวกับคำตัดสินของศาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ครับ ตนมีหน้าที่ต้องปฏิบัติ 

“เรื่องต่างๆ ที่สำนักข่าวหลายๆสำนักไปวิจารณ์ว่า ผมหน้าเศร้าบ้าง อะไรบ้าง คุณแม่ผมเพิ่งเสียไป หน้าเศร้าเป็นธรรมดา หรือบางสำนักข่าวบอก แหม มั่นใจมาก เซตอัพการประชุม ออกตารางเพียบถึงสิ้นเดือน มันเป็นหน้าที่นายกรัฐมนตรีในการบริหารราชการแผ่นดิน มีการเตรียมงานความเดือนร้อนของประชาชน ถ้าผลออกมาเป็นบวก ผมก็เดินหน้าทำงานต่อไป แต่ถ้าหากผลเป็นลบ รักษาการนายกรัฐมนตรี เอาแผนงานที่ผมเซตไว้ไปพิจารณา แล้วปรับปรุงตามความเหมาะสมของท่านเอง”นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า เรื่องการวางตารางการทำงานไม่ใช่ความประสงค์ของตน แต่เป็นการวางแผนตามปัญหาประชาชนที่เกิดขึ้น และหากต้องหลุดจากตำแหน่ง รักษาการนายกฯ คงจะพิจารณาตามลำดับความเหมาะสม แต่อย่างน้อยหากเข้ามาทำหน้าที่จะได้ทราบว่า ได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ต้องสื่อสารกับประชาชนก่อนศาลจะตัดสินพรุ่งนี้ และวันนี้ตนก็มาประชุมครม. พร้อมกับแจ้งให้ครม.ทราบในสิ่งที่ทำไปแล้ว และตอนบ่ายก็มีงานตลอดทั้งวัน ก็ยังทำงานไปเรื่อยๆ