“ศิริกัญญา” รอ ครม.ใหม่ ยันแจกเงินหมื่น ชี้โครงการยังมีความไม่แน่นอนสูง แฉ! รัฐบาล เตรียมโยกงบชำระหนี้ธนาคารรัฐ 3.5 หมื่นล้านไปโปะดิจิทัลวอลเล็ต

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่จะมีการปรับวงเงินเหลือ 1.22 แสนล้าน โดยการเติมเงินสดเข้าบัตรประชาชนแทน ว่า เรื่องนี้ค้องรอ ครม.ใหม่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน แต่ทางออกนี้เราได้พูดถึงกันมาสักพักแล้ว ในการใช้งบฯ เพิ่มเติมปี 67 ซึ่งไม่สามารถใช้ข้ามปีได้

ต้องใช้ให้หมดภายใน 30 ก.ย. 67 ดังนั้น ทางออกที่ต้องแจกให้กลุ่มเปราะบางก่อน โดยใช้งบฯ เพิ่มเติม จ่ายเป็นเงินสด ถือเป็นทางออกเดียวที่จะใช้งบฯ เพิ่มเติม 67 กับงบกลางอีกบางส่วนได้ เราจึงไม่แปลกใจที่รัฐบาลจะมีทางเลือกนี้อยู่ในมือ

ส่วนจะสุ่มเสี่ยงหรือกระตุ้นได้จริงๆ หรือไม่นั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ถ้าเงินที่ใส่ไปในระบบน้อยลง ผลของการกระตุ้นก็อาจน้อยลงตามไปด้วย แต่กลุ่มเปราะบางก็มีผลของการใช้จ่ายมากกว่าคนที่มีรายได้มากอยู่แล้ว คือได้เท่าไหร่ก็ใช้จนหมด

ขณะที่คนมีรายได้มากจะแบ่งใช้และเก็บ แต่การที่วงเงินน้อยลง อาจทำให้ผลต่อเศรษฐดิจน้อยลงตาม สุดท้ายแล้วก็ยังไม่รู้ว่า งบฯ 68 จะถูกนำมาใช้ในรูปแบบใด ดังนั้นในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องรอดู แต่อยากหนึ่งที่เราเห็นด้วย คือ จำเป็นที่ต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจตอนนี้ ถ้าต้องรอถึงไตรมาส 4 หรือรอไตรมาส 1 ในกรณีที่ไม่สามารถชำระเงินแล้วเสร็จได้ก็อาจทำให้ช้าเกินควร การเลือกจ่ายเงินสดเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ณ วันนี้โดยที่ไม่ต้องรอ

สำหรับการเลือกจ่ายเป็นเงินสดผ่านแอปเดิม แล้วแอปทางรัฐจะดำเนินการอย่างไร น.ส.ศิริกัญญา เผยว่า แอปที่ทำมาใหม่นั้น ระบบการชำระเงินต่างๆ ก็เพื่อรองรับ 50 ล้านคนที่ได้เงินดิจิทัลวอลเล็ต

แต่ถ้าเหตุผลและแหล่งที่มาของเงินไปทางนั้นไม่ได้จริงๆ ก็ต้องยอมรับ และหาทางออกเรื่องนี้ แต่แน่นอนว่าแอปทางรัฐยังสามารถใช้ได้ในอีกหลายกรรม หลายวาระ คงไม่สูญเปล่า แต่เรื่องของระบบชำระเงินนั้นต้องรอ ครม.ยืนยัน ว่าจะใช้ระบบดิจิทัลวอลเล็ตอีกหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ความไม่แน่นอนมีอยู่สูงมากสำหรับโครงการนี้ เนื่องจาก กมธ.งบประมาณ จะมีการลงมติ เพื่อเปลี่ยนแปลง งบฯ 35,000 ล้านบาท เพื่อไปใส่ในโครงการนี้ 

โดยการตัดลดงบประมาณที่ใช้ชำระหนี้ ธกส. , ออมสิน , EXIM Bank รวมถึงธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งหากจำได้ที่เขาเคยบอกว่าจะบริหารจัดการงบประมาณ ปี 68 จำนวน 132,300 ล้านบาท จะมาจากส่วนนี้ด้วย แต่ก็ยังไม่ครบ 130,000 ล้าน อยู่ดี อย่างไรก็ตามเราไม่เห็นด้วยกับการไปปรับลดงบประมาณที่ใช้ชำระหนี้ของธนาคารของรัฐ