กกต.พร้อมรับสมัคร ส.ส.แบ่งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์ 3-7 เม.ย. เผย พรรคการเมืองระวังตัว กรองคุณสมบัติผู้สมัคร ยอมรับลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าชี้แจงไม่ละเอียดทำสับสน ยันเร่งแก้ไขรักษาสิทธิประชาชน
นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ระบุ สำนักงาน กกต. ได้ซักซ้อมกับผู้ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ในฐานะเจ้าของพื้นที่ การไฟฟ้านครหลวง เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมถึงอำนวยความสะดวกแก่พรรคการเมืองและผู้สนับสนุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งน่าจะมีความพร้อม
การรับสมัครจะมีขึ้นที่อาคารไอราวัตพัฒนา เขตดินแดน กรุงเทพฯ เริ่มรับสมัครวันที่ 3-7 เม.ย.ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00น. ทั้งนี้การจับสลากหมายเลขผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อใครที่มาก่อนเวลา 08.00น.จะได้สิทธิการจับสลาก แต่ถ้าหากใครมาหลังเวลาดังกล่าวก็จะได้หมายเลขเรียงลำดับถัดไป ทั้งนี้เงื่อนไขการลงสมัครแบบบัญชีรายชื่อ พรรคการเมืองจะต้องผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งก่อน ส่วนการรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 กรุงเทพฯ เริ่มรับสมัครวันที่ 3-7 เม.ย. เวลา 08.30-16.30น. จะมีผู้อำนวยการเขตเลือกตั้งแต่ละเขตจะเป็นผู้รับสมัคร โดยจะเป็นคนละส่วนความรับผิดชอบกับสำนักงาน กกต. สำหรับจังหวัดอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับผู้อำนวยการ กกต.แต่ละจังหวัดจะเป็นผู้กำหนด อย่างไรก็ตามสำหรับการเลือกตั้ง 2566 จะใช้รูปแบบบัตรลงคะแนน 2 ใบ ประกอบด้วยบัตรลงคะแนนผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต และบัตรลงคะแนนผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งจะไม่ใช่เบอร์เดียวกัน แต่ก็มีความเป็นได้ที่จะได้เบอร์เดียวกันทั้ง 2 ใบ ในกรณีที่จับสลากได้หมายเลขเดียวกัน
ส่วนกรณีที่ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนกรณีการแบ่งเขตเลือกตั้งของกกต.ในวันที่ 30 มี.ค. 2566 เรื่องนี้อยู่ในชั้นศาลตนยังพูดอะไรมากไม่ได้ แต่ยืนยันว่าเราทำตามรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ในการแบ่งเขต ทั้งนี้กกต.ได้มอบหมายให้ผู้แทนไปชี้แจง อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร
นายแสวง กล่าวถึงการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ว่า เราเตรียมระบบไว้ดีแต่ชี้แจงประชาชนไม่ละเอียด ทำให้ช่วงแรกเกิดความสับสนอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ก็น่าจะแก้ไขแล้ว ทั้งในส่วนสำนักงาน กกต. และสื่อมวลชนที่ชี้แจงต่อประชาชน ซึ่งก็น่าจะเป็นระบบและเป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อยแล้ว ส่วนปัญหาการลงทะเบียนแล้วระบบผิดพลาดให้ใช้สิทธิในวันที่ 14 พ.ค. แล้วไม่สามารถยกเลิกได้นั้น ตอนนี้สำนักงานทราบเรื่องแล้ว และจะนำไปแก้ไขเพื่อรักษาสิทธิของประชาชนโดยเร็ว ส่วนกรณี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าคนไทยในบางประเทศลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรแล้วแต่มีการกำหนดวันเลือกตั้ง ในวันที่ไม่ใช่วันหยุดนั้น นายแสวง กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลแล้ว สำนักงานก็ต้องพูดคุยว่าเป็นอย่างไร บางทีเป็นความเห็นไม่ใช่ข้อเท็จจริง อาจจะต้องดูเงื่อนไขตามกฎหมายด้วย แต่ก็เป็นหนึ่งเสียงที่เราต้องรับฟังเหมือนกัน
ถามว่า กรณีตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้ง กกต.จะมีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นหรือไม่ เพราะในการเลือกตั้งปี 2562 มี ส.ส.ที่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติหลังเลือกตั้ง นายแสวง กล่าวว่า เราตรวจมาตรฐานเดียว โดยได้รับความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ประมาณ 26 หน่วยงาน โดยมีการซักซ้อมกันแล้ว เราก็จะตรวจตามมาตรฐาน ทั้งนี้คุณสมบัติบางเรื่องไม่ได้อยู่ในหน่วยงานของรัฐที่สามารถตรวจสอบได้ แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเอง กฎหมายถึงต้องเขียนว่ารู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิมาใช้สมัคร บางเรื่องเราไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะอยู่นอกเหนือฐานข้อมูลราชการ
“เชื่อว่าในการสมัครรับเลือกตั้งที่กำลังจะถึงนี้ พรรคการเมืองมีความระวัง โดยวิธีปฏิบัติ พรรคการเมือง หรือผู้สมัครจะมีการประสานกับ ผู้อำนายการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพื่อดูหลักฐานก่อนส่วนหนึ่ง ขณะที่หัวหน้าพรรคเองก็มีการส่งข้อมูลให้กกต.ตรวจสอบก่อนในระดับหนึ่ง เพียงแต่บางอย่างผู้สมัครเองอาจจะหลงหรือมาเจอทีหลัง อย่างไรก็ตามส่วนมากจะไม่เกิดเรื่องอย่างนี้ แต่เรื่องที่ไปที่ศาลฎีกามากที่สุดคือเรื่องความเป็นสมาชิกของพรรคการเมือง ซึ่งช่วงนี้ต้องเป็นสมาชิกพรรค 30 วันก่อนถึงวันเลือกตั้ง สำหรับที่มีการย้ายพรรค ซึ่งเราก็มีระบบฐานข้อมูลดูอยู่แล้ว” เลขาธิการ กกต.กล่าว