พรรคพลังประชารัฐ เคาะประชุมใหญ่ 6 ก.ย. ยันไม่ขับ "กลุ่มธรรมนัส" "ไพบูลย์" บอกสื่อไม่ต้องห่วง พปชร.พรรคสบายมาก ให้ห่วง "แพทองธาร" เสี่ยงโดนครหาไม่ซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์
นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควันนี้ว่า ที่ประชุมมีมติ กำหนดให้มีการจัดการประชุมใหญ่ พรรคพลังประชารัฐในวันที่ 6 ก.ย.นี้ เวลา 10.30 น. ที่ทำการพรรคในขณะที่วาระอื่น ๆ เป็นเรื่องของการถกประเด็นทั่วไปและข้อหารือ
อย่างไรก็ตามประเด็นที่พรรคเพื่อไทย ไม่เชิญพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาลนั้น นายไพบูลย์ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย ส่วนที่คนเป็นห่วงว่าพรรคกำลังมีปัญหาภายใน นายไพบูลย์ กล่าวว่า พรรคสบายมาก หัวหน้าพรรคเองก็มีความสุข และเข้มแข็งแน่วแน่ที่จะดูแลพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้าพรรค ไปตลอด จนกว่าจะไม่ไหว ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นในที่ประชุมไม่ได้พิจารณาในเรื่องนี้เพราะไม่มีอะไรน่าห่วง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเคยให้คำมั่นสัญญากับพรรคพลังประชารัฐ ว่าหากโหวตเลือกนายกฯ ในสภาให้ จะให้ตำแหน่งรัฐมนตรีกับพรรค ดังนั้น สส.พรรคพลังประชารัฐ จึงร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นการทำหน้าที่โดยสมบูรณ์
สำหรับกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้ไปร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น ก็เพราะมีภารกิจที่จำเป็น ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐได้ทำหน้าที่อย่างครบถ้วน และนายกรัฐมนตรี ก็ควรดำเนินการตามคำมั่นที่ให้ไว้ ส่วนตัวจึงห่วงนายกรัฐมนตรีมากกว่าเนื่องจากเป็นผู้ที่ให้คำมั่นแต่ไม่ทำตาม สิ่งที่ให้คำมั่นไว้ และคนทั่วไปอาจมองในทางที่ไม่ดี โดยเฉพาะในเรื่องของความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่
พร้อมยกตัวอย่างตามกฎหมายว่าด้วยแพ่งและพาณิชย์มาตรา 362 ที่ระบุว่า บุคคลที่โฆษณา และสัญญาว่าจะให้รางวัล ที่แสดงออกต่อสาธารณะไปอย่างครบถ้วน แม้ผู้รับจะไม่ได้หวังเรื่องของรางวัล แต่ถ้าให้คำมั่นแล้วจึงจำเป็นต้องดำเนินการตามที่ให้ไว้ นายไพบูลย์ กล่าวว่าหากไม่ดำเนินตามก็จะเป็นเรื่องของความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
ทั้งนี้ นายไพบูลย์ ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ คงไม่ดำเนินการ ตามข้อกฎหมายตามที่กล่าวไปก่อนหน้านั้นเพราะพรรคเป็นผู้ใหญ่มากพอ เมื่อมีประเด็นไม่ทำตามคำมั่นก็อยู่ที่คนทั่วไปเป็นผู้ตัดสิน และตนเป็นห่วงถึงสถานะรัฐบาลหากเริ่มต้นเป็นแบบนี้จะไปต่อได้สักเท่าไหร่
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีชื่อเข้าร่วมรัฐบาลก็เป็นข้อดี แสดงว่านายกฯไม่ทำตามคำมั่นไปแล้ว ส่วนที่จะไปเป็นพรรคฝ่ายค้านนั้นก็เป็นแค่ระเบียบในสภาถ้าไม่มีรัฐมนตรีอยู่ก็ไปเป็นฝ่ายค้าน แต่การทำงานก็ยังเป็นพรรคพลังประชารัฐที่ทำตามอุดมการณ์เหมือนเดิม ส่วนตัวมองว่าไม่เป็นอะไรหากจะต้องไปเป็นฝ่ายค้าน พร้อมถามกลับว่าพรรคฝ่ายค้านเสียหายตรงไหนพรรครัฐบาลตอนนี้เองก็เคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อน หากจะต้องไปอยู่ร่วมกับนายกรัฐมนตรีที่มีปัญหาเรื่องคำมั่นที่ทำตามไม่ได้จะทำให้เสียชื่อพรรค เดี๋ยวคนจะมองในด้านไม่ดี
ส่วนกรณี กลุ่มร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐจะมีการขับออกจากพรรคหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องภายในครอบครัวไม่อยากให้คนอื่นมาเกี่ยว สามารถคุยกันได้ ยืนยันว่าไม่มีการขับออกจากพรรคพร้อมบอกว่าใครจะไปขับครอบครัวตัวเอง อยู่ด้วยกันหมด ก็อยู่กันอย่างมีความสุขโดยมีพลเอกประวิตร เป็นหัวหน้าครอบครัว