"วันนอร์" เผย วิปร่วม3ฝ่ายเคาะแถลงนโยบาย 12-13 ก.ย.รวม 29 ชม. - นายกฯ-ครม.ชี้แจง 6 ชม.- ฝ่ายค้าน 13 ชม. พรรคร่วมรัฐบาล-วุฒิสภาฝ่ายละ 4.5 ชม."ปกรณ์วุฒิ" อยากเห็นรัฐบาลตอบคำถามฝ่ายค้านให้ตรงคำถาม
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เผยหลังประชุม คณะกรรมการร่วม 3 ฝ่าย ได้แก่ รัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา เพื่อหารือและกำหนดกรอบการอภิปราย ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ ว่า ที่ประชุมมีมติ เห็นชอบจัดสรรเวลาในการพิจารณารวม 29 ชั่วโมง
แบ่งเป็น ประธานการประชุม สำหรับควบคุมการประชุม 1 ชั่วโมง, นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ชี้แจง 6 ชั่วโมง, เวลาการอภิปรายของฝ่ายค้าน 13 ชั่วโมง, พรรคร่วมรัฐบาล 4 ชั่วโมงครึ่ง และวุฒิสภา 4 ชั่วโมงครึ่ง โดยการประชุม จะเริ่มการประชุมตั้งแต่เวลา 09.00 น จนถึง 24.00 น.ของวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ ซึ่งแต่ละวัน จะต้องใช้เวลาการพิจารณาให้ได้วันละ 14 ชั่วโมงครึ่ง หรือขึ้นอยู่กับเวลาการอภิปรายแต่ละวันให้มีความเหมาะสม
ด้าน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เวลาที่ได้จัดสรร พอบริหารจัดการได้ ทั้งนี้ในสัดส่วนของเวลานั้นมีพรรคเล็กประสานเบื้องต้นในการขอเวลาอภิปรายแล้ว ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ นั้นขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานขอเวลา ดังนั้นอาจจะเว้นในประเด็นดังกล่าว ส่วนพรรคไทยสร้างไทยนั้น ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามว่าในการชี้แจงของรัฐบาลอยากเห็นในทิศทางใด นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เวลาของครม.ได้รับเวลาเพิ่มขึ้นโดยเป็นความตั้งใจของทุกฝ่ายที่ให้ครม. ชี้แจงเต็มที่ ทั้งนี้ในประเด็นการตั้งข้อสังเกตและคำถามของฝ่ายค้าน อยากเห็นการตอบคำถามที่ตรงคำถามและตรงประเด็นจากรัฐมนตรี ไม่ใช่การตอบประเด็นที่ข้าราชการเตรียม หรือเปิดคลิปวีดีโอที่ไม่เป็นประโยชน์เวลาของรัฐสภา
เมื่อถามว่าติดใจในถึงคำแถลงนโยบายรัฐบาลที่ไม่ได้เขียนเอง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในรายละเอียดไม่มีประเด็นที่เปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างมีนัยสำคัญ เพราะไม่มีการพลิกขั้ว ทั้งนี้มีข้อแตกต่างที่ต้องตั้งข้อสังเกต เช่น ประเด็นที่ควรเร่งด่วนแต่ไม่ได้บรรจุให้เป็นวาระเร่งด่วน หรือเรื่องที่เคยมีแต่หายไป เป็นต้น ส่วนการทำนโยบายของรัฐบาลที่ไม่มีความชัดเจนนั้น ตนเข้าใจว่าการทำคำแถลงไม่สามารถใส่รายละเอียดที่ลงลึกได้ ดังนั้นเวทีแถลงนโยบายสำคัญ ที่สส.จะซักถามในรายละเอียดและรัฐมนตรีต้องตอบให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าจะเดินหน้าเดินหน้าอย่างไร
เมื่อถามถึงรายละเอียดของการปรับเปลี่ยนรายละเอียดของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เชื่อว่าต้องมีคนสอบถามในรายละเอียดที่กลับไปกลับมา และหากแถลงแล้วจะเปลี่ยนอีกหรือไม่ต้องซักถามในรัฐสภา ส่วนงบประมาณที่ขอไปแล้วและรายละเอียดที่ดำเนินการนั้นอาจเป็นไปได้ว่าอาจไม่สอดคล้องกัน เพราะมีบางรายละเอียดที่สุ่มเสี่ยงขัดต่อกฎหมายและเงื่อนไขที่ถูกตั้งมานั้นเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ดังนั้นต้องทวงถามว่านิ่งหรือไม่ หรือจะเปลี่ยนอะไรอีก