“ชูศักดิ์” แจงตีคู่ แก้รัฐธรรมนูญรายมาตราและทั้งฉบับ 

“ชูศักดิ์” แจงตีคู่ แก้รัฐธรรมนูญรายมาตราและทั้งฉบับ 
“ชูศักดิ์” แจงสภา เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ควบคู่การแก้ไขทั้งฉบับ ส่งสัญญาณแก้เสียงข้างมาก ล้มนายกฯ ไม่ได้เพราะไม่ยุติธรรม

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาว ว่า จากการรับฟังเห็นมีประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง 1. ทำไมไม่จัดเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นนโยบายเร่งด่วน 2. ความไม่ชัดเจนของนโยบาย ว่าจะทำรัฐธรรมนูญฉบับในแบบไหนอย่างไร 

นายชูศักดิ์ กล่าวชี้แจงว่า โดยให้ย้อนไปสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีการวิจารณ์กันว่านโยบายยืดเยื้อไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไร จะทำอย่างไร โดยเขียนว่า “จะแก้ ปัญหาความเห็นต่าง ในเรื่องรัฐธรรมนูญเพื่อให้คนไทยมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย โดยยึดรูปแบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่แก้ไขหมวด 1 หมวด 2 โดยรัฐบาลจะหารือแนวทางในการทำประชามติ” 

แต่มาถึงรัฐบาล น.ส.แพรทองธาร เขียนไว้สั้นๆ ว่าจะเร่งรัดทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยเร็วที่สุด โดยยึดโยงกับประชาชนและหลักการประชาธิปไตย เพราะรัฐบาลคิดว่า ต้องทำความเช้าใจกับรัฐสภาเข้าใจร่วมกัน และร่วมกันผลักดัน นอกจากนี้ยังต้องแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตย ของรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ที่เรียกกันว่า รัฐธรรมนูญปราบโกง แต่ส่วนตัวดูแล้วว่ามีบทบัญญัติหลายมตราที่เป็นปัญหา สามารถตีความเกินเลยไปจากปกติที่ควรรจะเป็น ที่เห็นชัด เช่น มาตรา 160 (4) (5) คำว่า มีความซื่อสัตย๋สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ถามว่า วิญญูชนจะรู้ว่าอะไรคือประจักษ์ หรือคือการไม่เคยทำผิดมาเลยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หรืออะไรคือพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนประมวลจรยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งเราทราบดีว่า ท้ายสุดจะเอาตั้งแต่อายุเท่าไหร่ก็ไม่ได้กำหนด จะเอาตั้งแต่แรกเกิด หรือ 7 ขวบ แค่เตะฟุตบอลโกงเขา  เป็นต้น ก็ไม่มีข้อจำกัด 

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เคยมีการหารือในวิปรัฐบาลและฝ่ายค้าน ว่าระหว่างรอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะแก้ไขรายมาตรา บางประเด็นที่คิดว่า มีความจำเป็น เพื่อประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินไม่ให้เกิดปัญหาการตีความล้นเกิน ซึ่งคิดและเห็นด้วยว่า ควรทำ แต่ที่ดีที่สุดคือให้ ส.ส. พรรคการเมืองทั้งหลายช่วยกันทำ ซึ่งทางพรรคประชาชนก็เสนอร่างมาแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้เสนอบรรจุ ส่วนพรรคเพื่อไทยก็ยกร่างมาพอสมควรว่าควรแก้อะไรบ้าง 

“เช่น การวินิจฉัยให้คนใดคนหนึ่งออกจากตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น ส.ส.,  สว. หรือรัฐมนตรี การใช้เสียงข้างมากเท่านั้นจะถือว่ายุติธรรมหรือไม่ เช่น 1 เสียงก็สามารถเอานายกฯ ออกจากตำแหน่งได้ ในอดีตก็เคยมีเสียงเอกฉันท์ หรืออย่างน้อยเสียง 2 ใน 3 หรือ 4 น 5 ดังนั้นเห็นด้วยว่า แก้รัฐธรรมนูญรายประเด็นพร้อมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับควบคู่กันไป จะทำให้บ้านเมืองเรามีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น” นายชูศักดิ์ กล่าว

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า โดยสรุปรัฐบาลมีเจตนาแน่วแน่ว่าจะเร่งรัดจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งทราบดีว่าต้องแก้กฎหมายประชามติซึ่งผ่านสภาฯ แล้ว อยู่ที่วฒิสภา หลังเสร็จก็ประกาศใช้ หลังมีกฎหมายประชามติ ก็จะเริ่มถามประชาชนว่า สมควรให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ เป็นการเริ่มนับหนึ่ง รัฐธรรมนูญประชาชนตามนโยบายรัฐบาลที่ประกาศ ดังนั้นรัฐบาลยินดีเร่งรัด จัดทำ ให้ได้รัฐธรรมนูญบับใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

TAGS: #ชูศักดิ์ #ศิรินิล