"ภูมิธรรม" ย้ำ ต้องคุยหน.พรรคร่วมฯ ปมแก้รธน.ทั้งฉบับ มอง ผลโพล"อิ๊งค์"นำ คนเห็นผลงาน 

ภูมิธรรม ย้ำ ต้องคุยหัวหน้าพรรคร่วมฯ ปมแก้รธน.ทั้งฉบับ ไปในทิศทางเดียวกัน มอง  ผลโพล "แพทองธาร"  นำ อันดับ 1 เพราะคนเห็นผลงาน  ปัดวิจารณ์"เท้ง" เป็นรอง

นายภูมิธรรม   เวชยชัย   รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม   กล่าวว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้  ที่จะมีการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง  ที่ส่วนหนึ่งมีการตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จสิ้นแล้ว และจะทยอยเข้าสู่การพิจารณา และวันนี้ก็จะมีการพิจารณาหลายส่วนที่เสนอเข้ามา  

นายภูมิธรรม   กล่าวถึง กรณีนายชูศักดิ์  ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีออกมาเปิดประเด็นจะต้องมีการหารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล  ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันเพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาอย่างที่เป็นอยู่  ว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการหารือ แต่ก็ต้องหารือกันตามที่นายชูศักดิ์พูด    ซึ่งในส่วนสมาชิกวุฒิสภา ที่มีการคัดค้าน และได้พลิกมติ ส.ส. ใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ในการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ  ซึ่งจะต้องส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะเห็นด้วยกับวุฒิสภาเสนอแก้ไขหรือไม่   โดยหลังจากนี้ ก็จะเป็นไปตามคือตั้งกรรมาธิการร่วม  ซึ่งก็ต้องรอให้กระบวนการนำไปสู่ข้อยุติก่อน แต่ระหว่างนี้ก็ต้องมีการหารือกันว่า มีความคิดเห็นอย่างไร เพราะว่าความเห็นของ สส.และ สว.ไม่ตรงกัน  

ส่วนการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลจะส่งผลต่อสมาชิกวุฒิสภาอย่างไรนั้น  นายภูมิธรรม  กล่าวว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน  แต่การพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล คือการหาวิธีการ  หรือทำความเข้าใจร่วมกัน  

ส่วนจะเป็นการให้ หัวหน้าพรรคต่างๆมายืนยันว่าจะเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่เป็นการป้องกันการบิดพลิ้ว  นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ แต่จำเป็นจะต้องมีการหารือกัน   เมื่อสถานการณ์ออกมาเช่นนี้กับสถานการณ์ทางการเมืองแบบนี้   ในฐานะพรรคการเมืองต่างๆที่ร่วมรัฐบาลจะมองอย่างไร  แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้มรการนัดหารือพูดคุย เพราะเรื่องเพิ่งเกิดเมื่อวาน  

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงมติของ  สว. เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.)  ที่ไม่เห็นด้วยและต้องกลับมานับหนึ่งใหม่ ว่าในเรื่องนี้ต้องเข้าใจถึงความแตกต่าง ที่มีความคิดเห็นต่างกันได้   ดังนั้นจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจและหารือกัน  โดยเฉพาะประธานวิปรัฐบาลก็จะต้องหารือกับทาฃฝ่าย สว. ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร โดยเฉพาะ สว. ที่มีความคิดเห็นแตกต่างจะเห็นในแง่มุมไหน เพื่อที่จะได้พูดคุยกันและเชื่อว่าการพูดคุยกันจะหาข้อยุติได้  

ส่วนสรุปแล้วทุกพรรคจะต้องเห็นไปในแนวทาง เดียวกันหรือไม่  นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็แล้วแต่เรื่อง   แต่เรื่องที่สำคัญก็ต้องพูดคุยกันและขึ้นอยู่กับความแตกต่างของแต่ละฝ่าย ดังนั้นจะส่งผลต่อไทม์ไลน์ ในการทำประชามติครั้งต้องล่าช้าออกไปหรือไม่นั้น  นายภูมิธรรมเห็นว่า ขณะนค้มีผลที่จะทำให้ต้องมาทบทวนพิจารณากันว่าการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดต้องทำอย่างไร  และจะส่งผลให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่แล้วเสร็จในรัฐบาลนี้ใช่หรือไม่  นายภูมิธรรมเห็นว่า  เรื่องนี้ยังไกลไปอย่าพึ่งไปด่วนสรุป  


มีการตั้งข้อสังเกตว่าการทำประชามติครั้งแรกจะไม่ทันในการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด  ใครจะได้หรือใครจะเสีย  นายภูมิธรรม กล่าวว่า  ขนาดนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามกระบวนการ ไม่ได้มีอะไรผิดแผกตามกระบวนการแต่อย่างใด เพียงแต่ช่วงหนึ่งต้องการเร่ง ให้ทันกับการเลือกตั้ง ส.อบจ. เพื่อให้สามารถทำไปด้วยกันได้  แต่เมื่อมีความคิดเห็นที่แตกต่างก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องทำความเข้าใจกัน  ดังนั้นสถานการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา   โดยเฉพาะการเกิดขึ้นในที่ประชุมสภา  เพราะต่างฝ่ายต่างมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ก็ต้องทำความเข้าใจกัน  

ส่วนกรณีที่นายชูศักดิ์ส่งสัญญาณว่า หากการแก้ไขกฎหมายประชามติครั้งนี้ล่าช้า  เพราะจะต้องทำถึง 3  ครั้ง  แต่ยังมีข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกฉบับเพื่อทำ 2  ครั้ง  นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามนายชูศักดิ์ตนเองไม่ได้พูดคุยกับนายชูศักดิ์แต่อย่างใด  ซึ่งข้อเสนอนี้มาจากในส่วนของ นายปิยะบุตร  แสงกนกกุล  แกนนำคณะก้าวหน้า  ที่เห็นว่า ตนเองไม่ได้ไปเอารายละเอียดของคนนั้นคนนี้มาคิด ตอนนี้ดูแลเรื่องที่จะเข้าสภาและที่เป็นปัญหา โดยความเห็นของแต่ละบุคคล ที่อาจจะเหมือนและแตกต่างกันบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา 

ขณะที่ผลสำรวจคะแนนนิยมพบว่า  น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ได้รับคะแนนนิยมมากขึ้น นายภูมิธรรมมองว่าเรื่องนี้  ผลการสำรวจโพลเป็นการหยั่งกระแส    ขึ้นอยู่กับศาสตร์ของแต่ละส่วน  แต่การที่นายกฯ ได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นก็น่าจะมาจากผลการทำงานของนายกฯ   เพราะตอนแรกเข้ามาไม่มีใครรู้และไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำอะไรได้หรือไม่  เนื่องจากอายุยังน้อยเมื่อเปรียบเทียบประวัติศาสตร์ของรัฐบาลไทย  แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเทรนของโลก ที่ผู้นำมีประสบการณ์  มีความรู้ความสามารถ  และเป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ   ได้เห็นว่า ผู้นำโลกหลายคน มีอายุ 40 ต้นๆ ไม่เกิน 50   ดังนั้นจึงพิสูจน์ให้เห็นว่าอย่างน้อยขั้นต้นนายกฯ ก็มีความตั้งใจอยากทำงานและทำให้เกิดประโยชน์   และทำแล้วประชาชนให้ความรู้สึกชื่นชมยินดี  ผลสำรวจก็จะออกมาเช่นนี้

ส่วนเป็นเพราะนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิหัวหน้าพรรคประชาชนยังมีกระแสไม่ค่อยดีไม่เป็นที่รู้จักเมื่อเทียบกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่นั้นจึงทำให้คะแนนของนายกรัฐมนตรีขึ้นนำ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่กล้าไปพิจารณาของพรรคอื่นๆ

TAGS: #ภูมิธรรม #แก้รัฐธรรมนูญ #นิด้าโพล #แพทองธาร