"ทวี สอดส่อง" เชื่อสว.คว่ำร่างประชามติ ไม่เกี่ยวพรรคสีน้ำเงิน ชี้ จุดเริ่มต้นแก้รธน.“อนุทิน”พูดคนแรก ยืนยันจะใช้เวลา3ปีที่เหลือ เดินหน้าแก้รธน. บอกไม่มีใครสั่ง รัฐบาลได้นอกจากประชาชน
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ เผย ยังไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลจะนัดหารือแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายหลังสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. คว่ำร่างพ.ร.บ.ประชามติ ว่า ยังไม่ได้นัด เพียงแต่ได้ยินจากสื่อมวลชน โดยปกติพรรคร่วมรัฐบาลจะมีนัดคุยกันอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมามีเหตุการณ์น้ำท่วม และปัญหาของประชาชน จึงต้องไปช่วยเหลือประชาชนก่อน เพราะการอยู่รอดชีวิตของประชาชนมีความสำคัญ แต่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ซึ่งตามระยะเวลาของรัฐบาลจะอยู่อีก 3 ปี กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเจตจำนงของรัฐบาลที่จะต้องแก้ ก็ต้องมีการคุยกัน จะต้องใช้เสียงในสภา คือการยกมือลงมติ
ส่วน สว. คว่ำร่างพ.ร.บประชามติ ฉบับ ส.ส. ให้กลับไปใช้แบบสองชั้น ซึ่งทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญลำบากขึ้น มองว่าเป็นการยื้อการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่ได้มองแบบนั้น สภาต้องมีพื้นที่สำหรับคนที่เห็นต่างกัน สว.เป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์อาจจะมีมุมมอง ซึ่งสภาเขาให้มาคุยกัน ไม่ได้ให้มาทะเลาะกัน
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องใช้เสียงสว. ทำให้ถูกมองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคการเมืองบางพรรคที่สนับสนุนสว. อาจจะไปในทิศทางเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “ไม่เชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเริ่มต้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอนุทิน ชาญวีรกูลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็พูดเรื่องนี้เป็นคนแรก ที่ผมนั่งอยู่ด้วยนะ“
เมื่อถามย้ำว่า จะเป็นใบสั่งของ พรรคสีน้ำเงินที่ให้สว.คว่ำร่างพ.ร.บ. ประชามติหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่มี คนที่จะสั่งรัฐบาลได้ คือประชาชน ประชาชนไม่ได้อยู่รับใช้รัฐบาล รัฐบาลต้องอยู่รับใช้ประชาชน คนที่จะสั่งรัฐบาลได้ก็คือประชาชน
ส่วนการหารือของพรรคร่วมรัฐบาล จำเป็นต้องมีความคิดเห็นไปในแนวทางเดียวกันหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การหารือก็เหมือนการเสวนา ไม่ใช่การโต้วาที การหารือมีความเห็นแตกต่างกันได้ ส่วนการโต้วาทีคือการทะเลาะกันกลายๆ เอาชนะด้วยคารม การเสวนาอาจจะมีความเห็นไม่เหมือนกันได้แต่สุดท้าย จะจบด้วยความสามัคคีกัน
และเมื่อถามว่าการที่สว. คว่ำร่างพ.ร.บประชามติเมื่อวานนี้ จะส่งผลเสียกับรัฐบาลหรือไม่ พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า เป็นอำนาจของสว. รัฐธรรมนูญมีช่อง หากเห็นไม่ตรงกัน แย้งขึ้นไปได้
ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าหากยื้อเกินไปเช่นนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่แล้วเสร็จ ในรัฐบาลนี้ พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ไม่ได้ห่วง เพราะสุดท้ายอยู่ที่เหตุผล แม้สว. จะไม่ได้ถูกเลือกจากประชาชนโดยตรง เข้ามาโดยระบบเลือกตั้งทางอ้อม เชื่อว่าสว. ต้องเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ถึงเวลาที่จะต้องปรับปรุง พัฒนา จึงไม่มีความน่าเป็นห่วง
ส่วนจะถือว่าเป็นการยื้อมรดกคสช. หรือไม่ ขอไม่มองอย่าไปคิดให้ทะเลาะกันดีกว่า