"วราวุธ-ประภัตร" นำทีม ผู้สมัครส.ส.สุพรรณบุรี สมัครส.ส. ส่วน ในกทม. “นิกร-สันติ กีรนันท์” นำทีม วอน ‘กกต.’ อย่าทำประชาชนสับสน ปมบัตรเลือกตั้ง ชี้เวทีหาเสียงต้องรักษาความปลอดภัยให้รัดกุม
นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงความพร้อมการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อของพรรค ชทพ. ว่า ตอนนี้ทุกเขตเตรียมพร้อมทั้งหมด เป็นไปตามแนวทางที่พรรค ชทพ. ได้วางไว้ โดยตนจะเดินทางไปยังจ.สุพรรณบุรี เพื่อให้กำลังใจผู้สมัครทั้ง 5 เขต ทุกอย่างพร้อมหมด 100% โดยได้วางกำหนดการของวันที่ 3 เม.ย. ซึ่งเป็นวันรับสมัครส.ส. จ.สุพรรณบุรี ตนพร้อมด้วยนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค นำทีมผู้สมัครส.ส.แบบเขตของจ.สุพรรณบุรี ได้แก่ เขต 1 นายสรชัด สุจิตต์ เขต 2 นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เขต 3 นายนพดล มาตรศรี เขต 4 นายเสมอกัน เที่ยงธรรม เขต 5 นายประภัตร โพธสุธน
ซึ่งในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 3 เม.ย.นั้น พวกเราพรรค ชทพ. จะพร้อมกันสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรี โดยในเวลา 05.00 น. นัดพร้อมกันที่พระบรมราชานุสรณ์ ดอนเจดีย์ ทำพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เวลา 05.45 น. ออกเดินทางไปยัง วัดป่าเลไลยก์ เวลา 06.19 น. กราบนมัสการหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ เวลา 06.39 น. กราบขอพรเจ้าพ่อหลักเมือง และ 07.09 น. กราบขอพร อนุสาวรีย์นายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และเวลา 07.19 น.เดินทางไปยังสถานที่รับสมัคร ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิตสุพรรณบุรี
ส่วนการรับสมัครส.ส.เขตในกทม. ได้วางกำหนดการว่า ในเวลา 07.30 น. นายนิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค ชทพ. พร้อมด้วย นายสันติ กีรนันท์ รองหัวหน้าพรรค จะเป็นคนนำผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค ไปที่อาคารกีฬาเวสน์ สนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง ส่วนวันรับสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในวันที่ 4 เม.ย. ตนพร้อมด้วยนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ชทพ. จะนำรายชื่อผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ไปยังห้องบางกอกอาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยนัดรวมตัวกันที่พรรคชาติไทยพัฒนา เวลา 05.00 น. เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค ก่อนออกเดินทางพร้อมกันจากพรรค ชทพ. ไปยังสถานที่รับสมัคร
เมื่อถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าบัตรเลือกตั้งอาจจะทำให้ประชาชนสับสน นายวราวุธ ระบุ คิดว่าทาง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ต้องพยายามทำให้ประชาชนไม่สับสน ไม่ว่าจะเป็นการ มีชื่อ มีเลข มีสัญลักษณ์ของพรรคการเมือง เพราะการมีบัตรสองใบคิดว่าน่าจะสับสนพอแล้ว การที่เบอร์ไม่ตรงกันก็อาจทำให้เกิดความสับสนได้ ดังนั้นอะไรที่พอจะช่วยให้ประชาชนลดความสับสนลงได้ คิดว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทางพรรคจะต้องกำชับผู้สมัครไปชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน หากผู้สมัครคนไหนได้เบอร์ตรงกับเบอร์พรรคก็ถือว่าโชคดี แต่เกิดไปตรงกับเบอร์พรรคอื่นก็จะลำบากขึ้นไปอีก ส่วนจะใช้กลเม็ดใดไปแนะนำชาวบ้านนั้นคงต้องเห็นบัตรเลือกตั้งและให้รู้ก่อนว่าเราได้เบอร์อะไร
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองออกมาป่วนเวทีหาเสียง จะนำมาวิเคราะห์เพื่อเป็นบทเรียนในการเปิดเวทีหาเสียงอย่างไรหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า คงต้องขอความเห็นใจ และทำความเข้าใจกับประชาชนว่า เรามีทั้งคนที่เรารัก มีพรรคที่เราชอบ แต่ในช่วงเวลาของการเลือกตั้ง เป็นช่วงเวลาที่ทุกพรรคการเมืองมีสิทธิที่จะหาเสียง ชอบหรือไม่ชอบอย่างไรวันที่ 14 พ.ค. 66 จะเป็นวันตัดสิน ขอให้ทุกคนไปใช้สิทธิกันในวันนั้น
"ในการเตรียมการปราศรัย อย่าเพิ่งไปคิดเยอะถึงสิ่งที่ไม่ดีที่อาจเกิดขึ้น เรามีเจตนาดี ทุกพรรคการเมืองมีเจตนาดี ในการที่จะมาเอาชนะหัวใจของพี่น้องประชาชน ดังนั้นหากเกิดเหตุขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือมีการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุมในเบื้องต้นก่อน" นายวราวุธ กล่าว