"พล.อ.ประยุทธ์" แจงไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ เป็นยุทธศาสตร์ หวังส่งไม้ต่อให้ "พีระพันธุ์" นั่ง "นายกฯ" ปัดมอง "บิ๊กป้อม" เป็นคู่แข่ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เผยการลงสนามการเมืองอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก ว่า ก็ดี มาครั้งแรกก็เรียบร้อยดีไง ไม่มีใครทะเลาะกัน ไม่มีใครใช้ความรุนแรงต่อกัน แถมอยู่คนละพรรคก็มาทักทายกัน สวัสดีกัน ทุกคนก็คือคนไทยด้วยกัน บางคนก็คุ้นเคยกัน ก่อนหน้านี้ตนก็รู้จักกับแกนนำพรรคหลายคน คุ้นเคยกัน
อย่างไรก็ตาม หลายอย่างเปลี่ยนไป เพราะอยู่กันคนละพรรคแต่ความผูกพันส่วนตัวไม่มีปัญหา ความเป็นเพื่อน ความคุ้นเคย การทำงานร่วมกัน แต่การที่เขาจะเลือกพรรคไหนก็เป็นเรื่องของเขา ก็เพียงแต่ขอว่าให้ทุกคนช่วยกันทำเพื่อบ้านเมือง ถ้าหวังแต่เพียงหาเสียง สมมติว่าได้จากนโยบายที่หาเสียง แล้วทำไม่ได้จะตอบประชาชนว่ายังไง บางอย่างที่ตนกลัวว่ามันอันตรายพอสมควร เช่น การใช้จ่ายงบประมาณ ถ้าทำตรงนี้ต้องบอกว่ารายได้จะเอามาจากไหน บางนโยบายล่อไป 9 แสนล้านบาท จะเอามาจากไหนนี่คือสิ่งที่อันตรายและต้องชั่งน้ำหนักให้ดี ต้องดูว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า ตอนที่นั่งติดกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการพูดคุยอะไรกันบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็พูดคุยกันไป สนุกสนานกันไป เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้มาในฐานะคู่แข่งใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นแข่งอะไรกับใครเลย เมื่อกี้นั่งคุยกัน ก็แหย่กันไปแหย่กันมา ท่านก็ทำของท่าน ตนก็ทำของตน แต่ให้รู้ว่าวันนี้เราอยู่คนละพรรคแล้ว ส่วนจะคิดว่าจะรวมกันวันหน้าหรือเปล่า ตนก็แจ้งแล้วว่าตนแยกมา แยกก็คือแยก ไม่อย่างนั้นตนจะมานั่งสัมภาษณ์ตรงนี้ทำไม ก็ให้พล.อ.ประวิตรสัมภาษณ์สิ พรรคตนก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าพล.อ.ประวิตร ได้โพสต์ถึงกรณี ตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต้องลง ส.ส. บัญชีรายชื่อถึงจะสง่างาม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครจะว่าอะไรก็ว่าไปตนมองในเรื่องของการให้โอกาสคนอื่นเขาขึ้นมาเป็นบ้าง ตนก็เลยให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็น ส.ส. บัญชีรายชื่ออันดับ 1 เพราะมีผลกับการอยู่ 2 ปีของตน หลายคนถามว่า ตนอยู่ 2 ปีแล้วจะเป็นยังไง ก็นั่นไงคือคำตอบ ซึ่งเป็นตัวเลือกในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป ถ้าตนได้อยู่ 2 ปี ก็จะมีคนสานต่อตรงนี้ ทุกอย่างมันคือยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์คือระยะยาวไป
เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะได้เป็นแกนนำจะต้องรัฐบาลแน่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มั่นใจตรงไหน ตนพูดว่าแค่ได้เป็น เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้เช่นนั้น ต้องเข้าใจว่าตนมีภาระหลายอย่าง และมีบทเรียนมาแล้ว เรื่องการที่หลายคนพูดว่า เป็นคนทำให้สภาล่ม มันใช่ไหมล่ะ คนเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว พูดจาให้ระมัดระวังบ้างหลายคนมาโทษนายกฯ ในเมื่อวันนั้นตนก็ไม่ใช่ ส.ส. หรือสมาชิกพรรคใดเลย ตนถูกเลือกโดยมีพรรคการเมืองสนับสนุน แล้วตนบังคับ ส.ส. ได้ไหม ถ้าบังคับได้ ตนก็อยู่พลังประชารัฐแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ดีนะ เพราะตนบังคับให้เขาทำสิ่งดีๆ เขาก็เฉยๆ แต่ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ดีนะ แต่หลายอย่างมันไม่ตรงกัน ตนก็เลยมาอยู่กับนายพีระพันธุ์เพราะมีเจตนาที่ตรงกัน ว่าเราจะเดินหน้าประเทศไทย อย่าคิดว่าได้เงินเท่าไหร่ในการเลือกตั้ง