“พริษฐ์” ประธาน กมธ.พัฒนาการเมือง แนะ กกต.ทบทวนวันเลือกตั้งนายกอบจ.เป็น วันที่ 2 ก.พ. 68 อำนวยความสะดวกประชาชน พร้อมแนะแก้กฎหมายท้องถิ่นล็อกวาระกันลาออกก่อนหมดวาระ
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานคณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เผย ภายหลังร่วมประชุม กับนายแสวง บุญมี เลขธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่า ในการกำหนดวันเลือกตั้งท้องถิ่นในระดับ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสมาชิกสภาอบจ.ที่จะหมดวาระลง ซึ่ง กกต.ได้กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ 68 แต่ทางตนเองเคยได้มีการทักท้วงในเรื่องนี้ เพราะเห็นว่าหากยึดเรื่องความสะดวกของประชาชนวันอาทิตย์น่าจะสะดวกกว่า เพราะประชาชนบางคนทำงานวันเสาร์มากกว่าวันอาทิตย์และบางคนอาจจะทำงานต่างจากจังหวัด จึงต้องมีการเดินทางกลับมาเลือกตั้ง อาจจะไม่ทัน หากย้อนดูการเลือกตั้ง ทั้งระดับ ส.ส. หรือท้องถิ่น ทุกการเลือกตั้งที่ครบวาระจะเกิดวันอาทิตย์ทั้งนั้น ประชาชนหลายๆคนอาจจะคุ้นชินกับการเลือกตั้งวันอาทิตย์
ทั้งนี้นายพริษฐ์ ระบุว่า ทางกกต.แจงเรื่องจัดการเลือกตั้งวันเสาร์นั้น เพราะมีความกังวลในเรื่องของความสุ่มเสี่ยงทางกฎหมาย ซึ่งทางกฎหมาย พรบ.เลือกตั้งท้องถิ่น เขียนไว้ว่าต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน แต่วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ ก็เป็นวันที่ 45 พอดี ซึ่งในมุมมองของตนเองคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะสามารถจัดวันเลือกตั้งวันอาทิตย์ ที่ 2 ก.พ. 68 ได้ เพราะตรงกับ 45 วัน
นายพริษฐ์ กล่าวว่า เพื่อช่วยให้ กกต.คลายความกังวล จึงได้มีการออกหนังสือไปยังสำนักกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อถามความเห็นว่าสามารถจัดการเลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ ที่ 2 ก.พ. 68 ได้หรือไม่ นั้น และได้คำตอบว่า สามารถทำได้ และตนได้ส่งเรื่องนี้ให้กับ กกต.แล้ว จึงมาเรียนเรื่องข้อกังวลทางกฎหมายในเรื่องที่จัดการเลือกตั้งตรงกับวันที่ 2 ก.พ. 68 สำนักกฎหมายพูดชัดว่าไม่ได้มีข้อกังวลดังกล่าว จึงหารือให้ทางเลขาไปปรึกษากับ กกต.เพื่อทบทวนการเลือกตั้ง อบจ.ในครั้งนี้
ทั้งนี้ทางเลขากกต.ทราบเรื่องดังกล่าวและจะนำไปหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าจะมีการทบทวนวันเลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ที่ 2 กพ 68 หรือไม่ หวังว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างนั้นเพราะจะได้ช่วยเรื่องความสะดวกของประชาชนโดยไม่สุ่มเสี่ยงในทางกฎหมาย
สำหรับแนวทางในการปรับปรุงเลือกตั้งกฎหมายท้องถิ่นนั้น เรื่องของปัญหาที่ผู้บริหารท้องถิ่นอาจจะลาออกก่อนการหมดวาระ เลยทำให้การเลือกตั้งท้องถิ่น บางที่เกิดขึ้นสองครั้ง คือต้องเลือกผู้บริหารหนึ่งครั้งและสมาชิกสภาอีกหนึ่งครั้ง ซึ่งทาง กกต. ให้ความเห็นว่าใช้งบประมาณเยอะขึ้น และอาจจะส่งผลต่อการใช้สิทธิของประชาชนลดลง จึงกำลังเร่งศึกษาและหาทางออกที่ดีที่สุด
ในด้านของกรอบเวลายันทันอยู่ ตราบใดที่วาระยังไม่หมด หากในวันนี้ กกต.พอใจแล้ว ก็สามารถทบทวนได้เลย แต่ถ้ายังต้องการความเห็นทางกฎหมายเพิ่มเติม อยากให้ทาง กกต. เร่งออกหนังสือไปหากฤษฎีกา เพราะตนเชื่อว่าการตีความกฎหมายของกฤษฎีกาไม่น่าต่างอะไรจากสำนักกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎร หากทำให้ กกต. มีความสะดวกใจมากขึ้นว่าจัดการเลือกตั้งวันอาทิตย์ตามที่ทำมาตลอด และหวังว่ากกต.จะมีการทบทวนในวันเลือกตั้ง